จับตาจันทร์หน้า! KBANK วิ่งคึก หลังรีเทิร์น MSCI เม็ดเงินไหลเข้า 6.1 พันล้าน
จับตาจันทร์หน้า! KBANK วิ่งคึก! หลังกลับเข้าคำนวณ MSCI ใหม่ ในรอบ 1 ปีกว่า คาดเม็ดเงินกองทุน PASSIVE FUND จ่อเข้า 6.1 พันล้านบาท คิดเป็น 3 เท่าของมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ ณ ราคาปิดตลาดวันที่ 31 ส.ค.นี้
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (12 ส.ค.65) MSCI ซึ่งเป็นผู้จัดทำดัชนีตลาดหุ้นระดับโลกได้ประกาศผลการทบทวนดัชนีรายไตรมาสเมื่อวันพฤหัสบดี (11 ส.ค.) โดยในส่วนของหุ้นไทยนั้น MSCI ได้เพิ่มหุ้นธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK ในการคำนวณดัชนี MSCI Global Standard ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ ณ ราคาปิดตลาดวันที่ 31 ส.ค.นี้
ทั้งนี้ MSCI ไม่ได้ถอดหุ้นไทยใด ๆ ออกจากดัชนีดังกล่าวในการทบทวนดัชนีครั้งนี้
โดยก่อนหน้านี่นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุนบริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด(มหาชน) หรือ CNS กล่าวว่า MSCI Rebalance รอบ ส.ค.65 โดย MSCI จะประกาศรายชื่อหุ้นชุดใหม่ 11 ส.ค.นี้ และ Rebalance ณ วันที่ 31 ส.ค. 65 รอบนี้ ในส่วนของ MSCI Global Standard Index คาดว่าใน EM มี 2 ประเทศ คือ จีนและไทย ที่จะมีหุ้นเข้าออกใหม่
โดยในส่วนของประเทศไทยคาดหุ้นเข้า MSCI ใหม่ ได้แก่ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK เม็ดเงินไหลเข้าลงทุนจากกองทุน PASSIVE FUND ราว 171 ล้านเหรียญฯ หรือประมาณ 6.1 พันล้านบาท คิดเป็น 3 เท่าของมูลค่าการซื้อขายเฉลี่ยต่อวัน
โดยกรณีของ KBANK เป็นการกลับเข้ามารอบใหม่ หลังจากได้เพิ่มสภาพคล่อง ของสัดส่วนที่นักลงทุนต่างประเทศ (บุคคลธรรมดาและนิติบุคคล ซึ่งไม่ได้ใช้สัญชาติไทย) สามารถถือครองหุ้นและมีชื่อปรากฏบนทะเบียนหลักทรัพย์ได้ หรือ Foreign Limit แล้ว ทั้งนี้ KBANK ออกจากการคำนวณดัชนี MSCI เมื่อวันที่ 7 เดือนมิ.ย. 2564 เนื่องจาก NVDR ใกล้เต็มเพดาน 25%
สำหรับกลยุทธ์แนะนำเก็งกำไร KBANK ราคาเป้าหมาย 190 บาท ทั้งนี้ KBANK ยังเป็นธนาคารใหญ่ที่โดดเด่นด้าน Digital banking และมีการขยายตัวของสินเชื่อโดยเฉพาะเศรษฐกิจทยอยฟื้นตัวหนุนสินเชื่อ SME รวมถึงโอกาสขยายสินเชื่อไปรายย่อยที่มี yield สูงรวมถึงการจัดตั้งบริษัทร่วมทุนบริหารสินทรัพย์จะช่วยให้งบดุลแข็งแกร่งขึ้น
โดยรวมคาดกำไรสุทธิปี 2565 ที่ 4.2 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 12% เมื่อเทียบกับปีก่อน ระยะสั้นคาดกำไรไตรมาสที่ 3/65 เพิ่มขึ้นทั้งจากช่วงเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อน จากสินเชื่อเติบโต และการตั้งสำรองลดลง เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ด้านราคาหุ้นปัจจุบันอยู่ในจุดที่มูลค่าน่าสนใจ เนื่องจาก PBV อยู่ที่ระดับเพียง 0.65 เท่า และคาดหุ้นเข้า MSCI รอบนี้