EGCO โกยกำไรครึ่งปีแรกโต 59% แตะ 3.3 พันลบ. ปิดจ๊อบงานก่อสร้าง 2 โปรเจกต์ใหญ่
EGCO โชว์ผลประกอบการงวด 6 เดือนแรกปี 2565 กำไรโต 59% ทะลุ 3.33 พันล้านบาท เดินหน้าขยายธุรกิจต่อ ล่าสุดปิดจ๊อบก่อสร้าง 2 โครงการใหญ่ "โรงไฟฟ้าพลังน้ำ “น้ำเทิน 1” - โครงการ“ทีพีเอ็น” เตรียมเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ พร้อมรับรู้รายได้ทันที
นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO เปิดเผยว่า บริษัทโชว์ผลประกอบการไตรมาส 2/2565 เติบโตต่อเนื่อง มีกำไรจากการดำเนินงาน 3,219 ล้านบาท ล่าสุดประสบความสำเร็จในการปิดงานก่อสร้าง 2 โครงการ ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังน้ำ “น้ำเทิน 1” และโครงการขยายระบบขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ “ทีพีเอ็น” นับถอยหลังเตรียมเดินเครื่องเชิงพาณิชย์ พร้อมรับรู้รายได้ทันที
“การดำเนินงานในไตรมาส ที่ 2 ปี 2565 มีความก้าวหน้าและเป็นไปตามแผนงาน เอ็กโก กรุ๊ป ได้ติดตามสถานการณ์ราคาเชื้อเพลิง ที่สูงขึ้นอันเนื่องมาจากผลกระทบจากสงครามรัสเซีย-ยูเครนอย่างใกล้ชิด และมีการบริหารจัดการต้นทุนเชื้อเพลิงที่ดีเพื่อให้การเดินเครื่องผลิตไฟฟ้ามีประสิทธิภาพสูงสุด
นอกจากนี้ เอ็กโก กรุ๊ป ยังมีความก้าวหน้าทางธุรกิจที่สำคัญจนถึงปัจจุบัน ได้แก่ การลงนามสัญญาเงินกู้เพื่อพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้า “เอ็กโก โคเจนเนอเรชั่น ส่วนขยาย” กำลังผลิตสุทธิ 74 เมกะวัตต์ จังหวัดระยอง และความสำเร็จในการก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าและโครงการพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง 2 โครงการ ได้แก่ โรงไฟฟ้าพลังน้ำ “น้ำเทิน 1” กำลังผลิตติดตั้งรวม 650 เมกะวัตต์ ใน สปป.ลาว และโครงการขยายระบบขนส่งน้ำมันทางท่อไปยังภาคตะวันออกเฉียงเหนือ “ทีพีเอ็น” จังหวัดสระบุรี-ขอนแก่น ซึ่งเตรียมพร้อมจะเดินเครื่องเชิงพาณิชย์และรับรู้รายได้ต่อไป”
สำหรับผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 ของปี 2565 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2565 เอ็กโก กรุ๊ป มีรายได้รวมทั้งสิ้น 15,217 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 48% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยมีกำไรจากการดำเนินงาน 3,219 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีก่อน
โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากผลประกอบการที่เพิ่มขึ้นของโรงไฟฟ้า “บีแอลซีพี” และโรงไฟฟ้า “น้ำเทิน 2” รวมทั้งการรับรู้รายได้จากการลงทุนในบริษัท “เอเพ็กซ์ คลีนเอ็นเนอร์ยี โฮลดิ้งส์” ประเทศสหรัฐอเมริกา ในขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2565 บริษัทมีกำไรจากการดำเนินงาน 7,391 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ทั้งนี้ ใน 6 เดือนแรกของปี 2565 บริษัทมีกำไรสุทธิ 3,339 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 59% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน อย่างไรก็ตาม ผลประกอบการในไตรมาสที่ 2 ของปี 2565 ได้รับผลกระทบจากการแปลงมูลค่าหนี้สินสกุลเงินต่างประเทศเป็นสกุลเงินบาทอันเนื่องมาจากการอ่อนค่าของค่าเงินบาท และผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่ายุติธรรม (Fair value) ของเครื่องมือทางการเงิน ซึ่งไม่มีผลกระทบต่อกระแสเงินสดและการดำเนินงานของบริษัทแต่อย่างใด