คัด 4 หุ้น “รายได้-กำไร” โตสวนกระแส จับตาครึ่งปีหลังนิวไฮ

คัดหุ้นเด่น “โลจิสติกส์-หุ้นน้องใหม่” ชู WICE, ATP30, CPANEL, CHIC เด่น ครึ่งปีแรกโชว์รายได้-กำไรแกร่งขานรับเทรนด์ของธุรกิจที่เป็นขาขึ้น พร้อมจับตาครึ่งปีหลังเดินหน้าโตแกร่ง ทำนิวไฮต่อเนื่อง


กล่าวถึงบริษัทจดทะเบียน (บจ.) ในตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกาศผลการดำเนินงานครึ่งแรกปี 2565 ออกมาไฉไลดีกว่าตลาดคาดการณ์ไว้ โดยเฉพาะอย่าง 2 หุ้นกลุ่มโลจิสติกส์ WICE, ATP30 รวมถึงหุ้นน้องใหม่ที่เพิ่งเข้าตลาดไปไม่นานอย่าง CPANEL, CHIC โดยโชว์งบครึ่งปีแรก เติบโตโดดเด่นทั้งรายได้และกำไรสุทธิขานรับเทรนด์ของธุรกิจที่เป็นขาขึ้น อีกทั้งคาดการณ์ว่าครึ่งปีหลังเติบโตอย่างต่อเนื่องทำนิวไฮได้อย่างแน่นอน

บริษัท ไวส์ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ WICE ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ระหว่างประเทศแบบครบวงจร เป็นบริษัทจดทะเบียน (บจ.) เพียงรายเดียวที่ตั้งแต่ไตรมาส 1/2563 ซึ่งเป็นช่วงที่สถานการณ์โควิด-19 เริ่มระบาด จนมาถึงไตรมาส 2/2565 บริษัทมีกำไรสุทธิเติบโตทุกๆไตรมาส รวมทั้งหมด 10 ไตรมาสติดต่อกัน

ส่วนผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2565 บริษัทมีกำไรสุทธิ 170.49 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 53% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 111.42 ล้านบาท ขณะที่ครึ่งแรกปี 2565 มีกำไรสุทธิ 328.23 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 70% จากช่วงเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิ 193.01 ล้านบาท

โดยสาเหตุสำคัญมาจากปริมาณการขนส่งที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะการขนส่งทางทะเล (Sea Freight) และการขนส่งสินค้าข้ามพรมแดน (Cross Border Service) บริษัทสามารถทำกำไรอยู่ในระดับดีแม้ในช่วงที่ผ่านมาสถานการณ์ต้นทุนด้านค่าระวางเรือจะปรับตัวลดลง แต่ส่งผลให้ต้นทุนของบริษัทลดลงเช่นกันประกอบกับสถานการณ์ประเทศจีนเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ จึงสามารถขนส่งสินค้าผ่านด่านชายแดนได้เป็นปกติ

นายชูเดช คงสุนทร กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาธุรกิจ WICE เปิดเผยว่า ผลประกอบการครึ่งปีหลังยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง เพราะไตรมาส 3/2565 จะเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นของธุรกิจ ที่จะมีปริมาณขนส่งเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากกลุ่มลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะบริการขนส่งข้ามแดนที่มีปริมาณขนส่งเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดตั้งแต่เดือนกรกฎาคมเป็นต้นมา และคาดว่าจะมียอดขนส่งเฉพาะบริการนี้จะเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังอีก 40-50%

นอกจากนี้ บริษัทเริ่มรับรู้รายได้จากการขยายพื้นที่การให้บริการคลังสินค้าแบบออนไซต์ (Onsite Warehouse Management) ขนาด 15,000 ตร.ม. อีกทั้งความร่วมมือระหว่างบริษัทกับพันธมิตรผู้จัดจำหน่ายและบริหารช่องทางการขาย E-commerce แบบครบวงจรของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ทั้งนี้คาดว่าผลประกอบการปี 2565 จะทำสถิติสูงสุด (New High) ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 โดยตั้งเป้ารายได้เติบโต 20% แตะ 9,000 ล้านบาท และรักษาอัตรากำไรสุทธิที่ 7%

ด้าน บริษัท เอทีพี 30 จำกัด (มหาชน) หรือ ATP30 ผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการรถรับส่งพนักงานจากแหล่งที่พักอาศัยในเขตชุมชนไปยังโรงงานอุตสาหกรรมหรือสถานประกอบการโดยเฉพาะรอบเขตนิคมอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก (Eastern Seaboard) ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2565 บริษัทมีกำสุทธิ 11.07 ล้านบาท เพิ่มขึ้น  663% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 1.45 ล้านบาท ขณะที่ครึ่งแรกปี 2565 บริษัทมีกำไรสุทธิ 24 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 54% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 11.26 ล้านบาท

โดยสาเหตุสำคัญมาจากรายได้ของบริษัทปรับตัวสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากการให้บริการลูกค้าเดิม และลูกค้าใหม่ที่เพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาส 2/2565 โดยมีรถเพิ่มขึ้นถึง 14 คัน ประกอบกับบริษัทมีการบริหารจัดการต้นทุนได้มีอย่างประสิทธิภาพยิ่งขึ้น แม้จะอยู่ในช่วงที่ราคาน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดด จึงทำให้กำไรสุทธิเติบโตโดดเด่น

นายปิยะ เตชากูล กรรมการผู้จัดการ ATP30 กล่าวว่า ช่วงครึ่งหลังปี 2565 ธุรกิจมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง จากการลงทุนเพิ่มขึ้นของภาคอุตสาหกรรมในภาคตะวันออก ส่งผลให้รถรับส่งพนักงานเป็นที่ต้องการมากขึ้น ขณะที่การให้บริการบริหารจัดการการให้เช่าและการเดินรถไฟฟ้ากับ บริษัท อีวี มี พลัส จำกัด และบริษัท อรุณ พลัส จำกัด มีกระแสตอบรับที่ดี ทำให้บริษัทมีจำนวนรถที่ดูแลเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากแนวโน้มความต้องการใช้รถไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้น

นอกจากนี้บริษัทได้ศึกษาการให้บริการรถบัสไฟฟ้าเพิ่มเติม เพื่อนำมาให้บริการรับ-ส่งพนักงานซึ่งเป็นธุรกิจหลักของบริษัท ซึ่งคาดว่าจะเริ่มให้บริการรถบัสไฟฟ้าฟลีทแรกได้ภายในปีนี้ ถือเป็นการเพิ่มโอกาสทางธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับยานยนต์ไฟฟ้า และเพื่อเป็นการขยายฐานรายได้ของบริษัทให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งต่อไปในอนาคต

ทั้งนี้เชื่อว่าผลประกอบการปีนี้จะทำสถิติสูงสุดตลอดกาล (All time high) ได้อย่างแน่นอน โดยตั้งเป้าหมายรายได้เติบโต 25% หรืออยู่ที่ 600 ล้านบาท

ส่วน บริษัท ซีแพนเนล จำกัด (มหาชน) หรือ CPANEL ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์แผ่นคอนกรีตสำเร็จรูป (Precast Concrete) ด้วยระบบอัตโนมัติ (Fully Automated Precast) ที่ใช้สำหรับงานก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ เป็นบริษัทที่เพิ่งเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เมื่อปลายปี 2564 ประกาศผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2565 ว่าบริษัทมีกำไรสุทธิ 13.00 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 142% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 5.37 ล้านบาท และเป็นการเติบโตทำนิวไฮเป็นไตรมาสที่ 4 ติดต่อกัน

ขณะที่ครึ่งแรกของปี 2565 บริษัทมีกำไรสุทธิ 25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 47% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 16.78 ล้านบาท  หลังมีการปรับปรุงระบบการผลิต ส่งผลให้สามารถผลิต Precast ได้มากขึ้นและส่งมอบงานได้เร็วขึ้น ตามความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน

นาย ชาคริต ทีปกรสุขเกษม กรรมการผู้จัดการ CPANEL เปิดเผยว่า ผลประกอบการไตรมาส 3/2565 คาดว่ามีแนวโน้มทำนิวไฮต่อเนื่องจากระบบการผลิตที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยบริษัทมีงานที่จะส่งมอบให้ลูกค้าถึง 25 โครงการ อาทิ Britania กม 35, Noble Curve, SANSIRI (low rise condo) เป็นต้น

ทั้งนี้ บริษัทยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างรอเซ็นสัญญากับลูกค้า คือ โครงการแนวราบและแนวสูงเพิ่มอีก 6 ราย มูลค่ารวมกว่า 100 ล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทมีมูลค่างานในมือ (Backlog) ที่ 1,172.40 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้รายได้ในปี 2565-2566

โดยบริษัทมีแนวโน้มขยายฐานกลุ่มลูกค้าในโครงการหลากหลายประเภทมากขึ้น อาทิ โรงแรม, โรงพยาบาล, คอนโดมิเนียม, และห้างสรรพสินค้า โดยมีปัจจัยหนุนจากการเปิดประเทศ การลงทุนใหม่ของภาคธุรกิจบริการ ปัจจุบันมีสัดส่วนรายได้จำแนกตามประเภทโครงการ แบ่งเป็นแนวราบ 85.17% แนวสูง 14.72% และอื่นๆ 0.11%

นอกจากนี้ บริษัท ชิค รีพับบลิค จำกัด (มหาชน) หรือ CHIC ผู้จัดจำหน่ายเฟอร์นิเจอร์ สินค้าตกแต่งบ้าน ของใช้ในบ้าน ที่นอนและเครื่องนอนครบวงจร เข้าเทรดตลาดหลักทรัพย์ mai เมื่อวันที่ 27 กรกฎาคม 2565 ที่ผ่านมา ออกมาประกาศผลการดำเนินงานครึ่งแรกปี 2565 ว่าบริษัทมีรายได้รวม 440 ล้านบาท เติบโต 124% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ส่งผลให้กำไรสุทธิอยู่ที่ 15 ล้านบาท เติบโต 3.38% จากช่วงเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิ 11.62 ล้านบาท

โดยสาเหตุรายได้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ มาจากความต้องการซื้อสินค้าเฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ในบ้าน และของตกแต่งบ้านเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ยอดขายหน้าร้านและช่องทางจำหน่ายออนไลน์เติบโตได้ดี

รวมทั้งธุรกิจงานโครงการ บริษัททยอยส่งมอบงานในมือ (Backlog) และรับรู้รายได้บางส่วนในไตรมาส 2/2565 ประมาณ 101 ล้านบาท ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) อยู่ประมาณ 136 ล้านบาท ซึ่งจะมีการประมูลงานเพิ่มเติมในช่วงครึ่งปีหลังอย่างต่อเนื่อง

อย่างไรก็ตามภาพรวมกำไรสุทธิครึ่งปีแรกอาจจะเติบโตไม่มาก เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายการนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai รวมถึงการทำประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้ของแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น ประกอบกับมีค่าใช้จ่ายในการจัดโปรโมชั่นต่างๆ เพื่อกระตุ้นยอดขายทั้งหน้าร้านและออนไลน์ จำนวน 5.37 ล้านบาท

นอกจากนี้ มีการแก้ไขสัญญาเช่าที่ดินสาขาอุดรธานี ทำให้มูลค่าสินทรัพย์และหนี้สินตามสัญญาเช่าลดลง จึงเกิดผลต่างจากการแก้ไขสัญญาเช่าจำนวน 4.20 ล้านบาท ทั้งนี้ต้นทุนต่างๆ ข้างต้นเป็นค่าใช้จ่ายครั้งเดียว (One Time Expense) ซึ่งรับรู้ไปแล้วก่อนหน้านี้ และคาดว่าศักยภาพการทำกำไรในครึ่งปีหลังจะดีขึ้นแน่นอน เพราะไม่มีค่าใช้จ่ายดังกล่าว

นายกิจจา ปัทมสัตยาสนธิ กรรมการผู้จัดการ CHIC กล่าวถึงแนวโน้มธุรกิจตั้งแต่ไตรมาส 3/2565 ว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง จากยอดขายหน้าร้านและงานโครงการ รวมถึงจะประมูลงานใหม่เพิ่มเติมอีกหลายโครงการมูลค่าอยู่ที่ 20-30 ล้านบาทต่อโครงการ

อีกทั้งหลังเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ mai ทำให้ผลิตภัณฑ์และบริการของบริษัท เป็นที่รู้จักมากขึ้น ได้รับความสนใจจากพันธมิตรทางธุรกิจอาทิ บริษัทรับสร้างบ้าน ผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์แนวสูง โรงแรม อพาร์ทเม้นท์ สร้างโอกาสการเติบโตให้กับธุรกิจออกแบบ ตกแต่ง และให้เช่าเฟอร์นิเจอร์ครบวงจร

โดยบริษัทมุ่งเน้นพัฒนากลยุทธ์การตลาดแบบ O2O (Online to Offline) ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าต่างจังหวัด ที่มีกำลังซื้อสูงให้ความสนใจและมีคำสั่งซื้อเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยมั่นใจว่ารายได้รวมปี 2565 จะเติบโตมากกว่า 20% จากปีก่อน

ทั้งนี้หากรายได้ปีนี้ทำได้ตามเป้าหมาย เติบโตอย่างน้อย 20% จากปีก่อน ซึ่งทำได้ 674 ล้านบาท จะทำให้บริษัทมีรายได้รวม 809 ล้านบาท ซึ่งจะทุบสถิติรายได้สูงสุดที่เคยทำได้ปี 2562 ระดับ 781 ล้านบาท

Back to top button