สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 22 ส.ค. 2565

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 22 ส.ค. 2565


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 600 จุดในวันจันทร์ (22 ส.ค.) โดยหุ้นทุกกลุ่มในตลาดดิ่งลง เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล ในสัปดาห์นี้ โดยคาดว่าเฟดจะส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 33,063.61 จุด ร่วงลง 643.13 จุด หรือ -1.91%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,137.99 จุด ลดลง 90.49 จุด หรือ -2.14% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 12,381.57 จุด ร่วงลง 323.64 จุด หรือ -2.55%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบในวันจันทร์ (22 ส.ค.) แตะระดับต่ำสุดในรอบเกือบ 1 เดือน เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกเกี่ยวกับปริมาณก๊าซที่ตึงตัวจากรัสเซีย, สัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางยุโรป (ECB) และแนวโน้มเศรษฐกิจที่อ่อนแอ

ทั้งนี้ ดัชนี Stoxx Europe 600 ปิดที่ 433.17 จุด ลดลง 4.19 จุด หรือ -0.96% โดยระดับปิดวันนี้เป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 28 ก.ค.

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,378.74 จุด ลดลง 117.09 จุด หรือ -1.80%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,230.57 จุด ลดลง 313.95 จุด หรือ -2.32% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,533.79 จุด ลดลง 16.58 จุด หรือ -0.22%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงในวันจันทร์ (22 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกเกี่ยวกับวิกฤตค่าครองชีพที่ย่ำแย่ลง และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางต่าง ๆ เพื่อสกัดกั้นเงินเฟ้อ

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,533.79 จุด ลดลง 16.58 จุด หรือ -0.22%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันจันทร์ (22 ส.ค.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับผลกระทบที่เกิดจากการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) อย่างไรก็ดี สัญญาน้ำมันดิบได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน หลังจากซาอุดีอาระเบียส่งสัญญาณพร้อมปรับลดกำลังการผลิตเพื่อรับมือกับความท้าทายในตลาด

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 54 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 90.23 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 24 เซนต์ หรือ 0.25% ปิดที่ 96.48 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงในวันจันทร์ (22 ส.ค.) โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ และความกังวลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 14.5 ดอลลาร์ หรือ 0.82% ปิดที่ 1,748.4 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 27 ก.ค.

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนก.ย. ลดลง 19.1 เซนต์ หรือ 1% ปิดที่ 18.878 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 20 ดอลลาร์ หรือ 2.25% ปิดที่ 868 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนก.ย. ดิ่งลง 149.60 ดอลลาร์ หรือ 7% ปิดที่ 1,981.80 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ (22 ส.ค.) ได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะยังคงเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ขณะที่ยูโรอ่อนค่าลงสู่ระดับต่ำกว่า 1 ดอลลาร์ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับวิกฤตพลังงานในยุโรป ซึ่งอาจส่งผลให้เศรษฐกิจเผชิญภาวะถดถอย

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.82% แตะที่ระดับ 109.0460

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 0.9935 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0036 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.1753 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1813 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.6872 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6869 ดอลลาร์สหรัฐ

ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 137.50 เยน จากระดับ 136.87 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ  0.9646 ฟรังก์ จากระดับ 0.9591 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3051 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.2993 ดอลลาร์แคนาดา

Back to top button