PRINC แจง “สาธิต” ขายบิ๊กล็อต 200 ล้านหุ้น หวังเพิ่มฟรีโฟลต

PRINC แจง “ดร.สาธิต วิทยากร” ขายบิ๊กล็อต 200 ล้านหุ้น หวังเพิ่มฟรีโฟลต ให้เป็นไปตามเกณฑ์ตลาดหลักทรัพย์ฯ รายย่อยไม่ต่ำกว่า 15% มุ่งเข้าหน้าเข้าสู่การคำนวณในดัชนีหุ้นยั่งยืน (THSI) พร้อมเดินหน้าขยายโรงพยาบาล 20 สาขา หนุนผลงานโตแกร่ง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (24 ส.ค. 65) กลุ่ม ดร.สาธิต วิทยากร ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของบริษัท พริ้นซิเพิล แคปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ PRINC ได้ทำรายการบิ๊กล็อตขายหุ้น PRINC จำนวน 200 ล้านหุ้น ที่ราคา 6.98 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นราคาที่ต่ำกว่าราคาปิด ณ เมื่อวานนี้ (23 ส.ค. 65) ที่ปิดราคาสูงสุดของวัน 9.50 บาทต่อหุ้น บวก 25%

ทั้งนี้ นายธานี มณีนุตร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ PRINC ผู้ประกอบธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนและธุรกิจสุขภาพในนามเครือพริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ กล่าวถึง ประเด็นดังกล่าว เป็นประเด็นของผู้ถือหุ้นรายใหญ่ สอดคล้องตามแผนการของบริษัทเพื่อให้เป็นไปตามเกณฑ์ของทางตลาดหลักทรัพย์ และมุ่งหน้าเข้าสู่การคำนวณในดัชนีหุ้นยั่งยืน (THSI) โดยการปรับปรุงการกระจายการถือหุ้นของผู้ถือหุ้นรายย่อยของบริษัทฯ ให้เป็นไปตามข้อกำหนดของตลาดหลักรัพย์แห่งประเทศไทยที่กำหนดจะต้องมีรายย่อยไม่ต่ำกว่า 15%

โดยก่อนหน้านี้ มีกลุ่มผู้ลงทุนสถาบันและนักลงทุนหลายรายเข้ามารับฟังและติดตามข้อมูลผลการดำเนินงาน และทิศทางการดำเนินธุรกิจของบริษัท ที่ยังคงมุ่งเป้าขยายโรงพยาบาลจำนวนรวม 20 แห่ง ภายในระยะ 2 ปีข้างหน้า หรือไม่เกินปี 2567 จากปัจจุบันมีโรงพยาบาลในเครือทั้งหมด 13 แห่งเปิดดำเนินการแล้ว 12 แห่งใน 10 จังหวัด ซึ่งตามแผนของบริษัทมีการจัดสรรงบลงทุนประมาณ 5,000 ล้านบาท เพื่อรองรับการขยายการลงทุนในโรงพยาบาลจังหวัดเมืองรอง มุ่งเน้นการขยายในพื้นที่ภาคอีสาน และภาคกลาง เป็นยุทธศาสตร์หลัก และด้วยทำเลที่ตั้งของโรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ (บางนา กม.7) ซึ่งไม่ไกลจากสนามบินสุวรรณภูมิ ทำให้มีแนวโน้มการเติบโตของจำนวนผู้ป่วยต่างชาติตามการเปิดประเทศ รวมทั้งโรงพยาบาลในแถบภาคอีสาน ทั้งโรงพยาบาลพริ้นซ์ อุบลราชธานีและโรงพยาบาลพริ้นซ์ ศรีสะเกษ ที่รับผู้ป่วยประเทศเพื่อนบ้าน หลังผ่อนปรนการข้ามแดนจากทั้งสปป.ลาว และกัมพูชา

สำหรับ PRINC ผู้ดำเนินธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนและธุรกิจสุขภาพในนามเครือพริ้นซิเพิล เฮลท์แคร์ นอกจากโรงพยาบาลทั้งหมด 12 แห่งใน 10 จังหวัดแล้ว ยังดำเนินธุรกิจคลินิกใกล้บ้านใกล้ใจ 17 แห่งและคลินิกเสริมความงาม ผิวดีคลินิกอีก 11 แห่ง ตั้งเป้าเป็นโรงพยาบาลยั่งยืน (Sustainable hospital) ในปี 2566 นับเป็น 1 ในเครือโรงพยาบาลที่มีการขยายการเติบโตเร็วที่สุดในประเทศไทย

Back to top button