BEC ส่งซิกครึ่งหลังปี 65 รายได้ฟื้น รับละครใหม่-ขายคอนเทนต์ตปท.เพิ่ม

BEC ส่งซิกครึ่งหลังปี 65 รายได้ฟื้น หลังปล่อยละคร วาไรตี้ และซีรีย์ใหม่ออนแอร์เพียบ คาดหนุนเม็ดเงินโฆษณาเพิ่มขึ้น พร้อมเดินหน้าขายคอนเทนต์ส่งออกต่างประเทศ


นายพริยดิส ชูพึ่งอาตม์ รองกรรมการผู้อำนวยการ สำนักการเงินและบัญชี บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) หรือ BECเปิดเผยภาพรวมข้อมูลของบริษัทในงาน Opportunity Day ซึ่งจัดโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมื่อวันที่ 24 ส.ค.65 ว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2565 บริษัทฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 173.09 ล้านบาท ลดลง 6.3% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่ 184.69 ล้านบาท จากรายได้จากการให้ใช้ลิขสิทธิ์และบริการอื่นที่ลดลง

ทั้งนี้ บริษัทมีอัตรากำไรขั้นต้นอยู่ที่ 30.3% ในไตรมาส 2/2565 และผลประกอบการของบริษัทยังคงทำกำไรมาต่อเนื่องตั้งแต่ ไตรมาส 3/2563 จนถึงไตรมาส 2/2565

ส่วนรายได้จากการขายเวลาโฆษณาของกลุ่ม BEC ในไตรมาส 2/2565 อยู่ที่ 1,179.4 ล้านบาท ลดลง 3.5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนที่ 1,222.3 ล้านบาท เนื่องจากงบโฆษณาที่ค่อยๆ มีการปรับตัวลดลงตลอด ในขณะที่อัตราเงินเฟ้อมีการขยับเพิ่มขึ้นตลอดทุกไตรมาส โดยเฉพาะในช่วงเดือนมิถุนายน 2565 ที่อัตราเงินเฟ้อปรับตัวสูงถึง 7.66% หรือสูงสุดในรอบ 13 ปี และได้ส่งผลต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคและทำให้ผู้ลงโฆษณาชะลอใช้งบโฆษณาและรอดูสถานการณ์ในช่วงปลายไตรมาส 2/2565

ทั้งนี้คาดว่ารายได้รวมในช่วงครึ่งหลังปี 2565 จะขยายตัวจากเม็ดเงินโฆษณาขยายตัวอีกทั้งจากผังละครใหม่ที่น่าสนใจ คาดช่วยเพิ่มเรตติ้ง เช่น รากแก้ว, ลายกินรี, สายลับลิปกลอส, ซุปตาร์ 2550 นอกจากนี้ รายได้ Copyrights (GCL+ Digital) จะขยายตัว จากละครทั้งหมด 9 เรื่องที่ขายไปต่างประเทศ แบบ DOB, Catch-up ซึ่งรายได้ส่วนนี้ลง bottom line เกือบทั้งหมด

อย่างไรก็ตามยังไม่มีแผนปรับค่าโฆษณาขึ้นในครึ่งหลังปี 2565 โดยจะเน้นเพิ่ม Utilization rate เป็น 80-90% จาก 67.7% ในครึ่งปีแรก ทั้งนี้ BEC มี utilization rate ของรายการข่าวแข็งแกร่งอยู่ที่ 80% คาดผังละครใหม่ในครึ่งปีหลัง 2565 ช่วยหนุน utilization rate เพิ่มขึ้น

สำหรับแนวโน้มธุรกิจครึ่งหลังปี 2565 จากการออกอากาศละครใหม่และส่งมอบลิขสิทธิ์ละครเพิ่มขึ้น รวมทั้งภาพรวมอุตสาหกรรม และการท่องเที่ยวเข้ามามากขึ้น คาดการณ์น่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้น อย่างไรก็ตามยังคงมองไตรมาส 3/2565 ยังฟื้นตัวไม่มาก เม็ดเงินโฆษณาในตลาดยังถูกกดดันจากสถานการณ์เงินเฟ้อ และการส่งมอบลิขสิทธิ์ละครยังมีไม่มาก ส่วนเม็ดเงินในสื่อโทรทัศน์ไตรมาส 3/2565 คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น

ส่วนรายได้จากธุรกิจการจัดจำหน่ายจากต่างประเทศคาดเติบโต 10-20% เมื่อเปรียบเทียบกับปีก่อน ยังคงมองภาพรวมปีนี้ขึ้นอยู่กับสถานการณ์เศรษฐกิจโลก ซึ่งถ้าทำรายได้ธุรกิจการจัดจำหน่ายจากต่างประเทศได้ดี ก็จะทำให้ผลักดันผลประกอบการกำไรได้ดีต่อเนื่อง

 

Back to top button