“ดาวฟิวเจอร์” ดิ่งต่อกว่า 200 จุด วิตก “เฟด” ขึ้นดอกเบี้ยแรง คุมเข้มเงินเฟ้อ
ดาวโจนส์ฟิวเจอร์ดิ่งต่อกว่า 200 จุด ส่งสัญญาณวอลล์สตรีทร่วงต่อ หลังเกิดความวิตก “เฟด” เร่งขึ้นดอกเบี้ย คุมเข้มเงินเฟ้อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ดิ่งลงอีกกว่า 200 จุดในวันนี้ บ่งชี้ว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทจะปรับตัวลงในคืนนี้ ต่อเนื่องจากที่ทรุดตัวลงอย่างหนักในวันศุกร์
โดย ณ เวลา 19:31 น.ตามเวลาไทย ดัชนีดาวโจนส์ฟิวเจอร์ลบ 243 จุด หรือ 0.75% สู่ระดับ 32,022 จุด
ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ทรุดตัวลงมากกว่า 1,000 จุด หรือมากกว่า 3% ในวันศุกร์ ซึ่งเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดภายในวันเดียวนับตั้งแต่เดือนพ.ค. ขณะที่ดัชนี S&P 500 ดิ่งลง 3.4% และดัชนี Nasdaq ร่วงลง 3.9% โดยเป็นการปรับตัวลงมากที่สุดนับตั้งแต่เดือนมิ.ย.
ทั้งนี้ การทรุดตัวลงของดัชนีทั้ง 3 ได้ลบล้างช่วงบวกทั้งหมดที่ได้ทำไว้นับตั้งแต่ต้นเดือนส.ค.
นอกจากนี้ ดัชนีชี้วัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปพุ่งขึ้นในวันนี้ ท่ามกลางความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย หลังจากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) ต่างยืนยันว่าจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป แม้ส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจ
ขณะที่ดัชนี CBOE หรือ CBOE Volatility Index (VIX) ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นวอลล์สตรีท พุ่งขึ้น 7.98% สู่ระดับ 27.61 จุด ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 14 ก.ค.
ส่วนดัชนี STOXX 50 volatility index ซึ่งเป็นมาตรวัดความวิตกของนักลงทุนในตลาดหุ้นยุโรป ดีดตัวขึ้น 2.7 จุด สู่ระดับ 29.606 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 19 ก.ค.
นายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด กล่าวว่า ภารกิจของเฟดในการต่อสู้กับเงินเฟ้อยังไม่เสร็จสิ้น โดยเฟดจะยังคุมเข้มนโยบายการเงินต่อไป ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจและตลาดแรงงานของสหรัฐ
“เราจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป จนกว่าจะมั่นใจว่าภารกิจของเราจะประสบความสำเร็จ โดยภาคครัวเรือนและภาคธุรกิจอาจได้รับผลกระทบจากการที่เฟดยังคงปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย แต่ความล้มเหลวในการรักษาเสถียรภาพของราคาจะทำให้เกิดผลกระทบมากกว่า” นายพาวเวลกล่าวในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล
นอกจากนี้ นายพาวเวลกล่าวว่า เฟดยังคงจำเป็นต้องปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป และเฟดจะไม่ตัดทางเลือกในการ “ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่มากกว่าปกติ” ในเดือนก.ย.
ทางด้านนางอิสซาเบล ชนาเบล กรรมการ ECB ระบุเช่นกันว่า ECB จะใช้นโยบายการเงินอย่างเข้มงวดเพื่อสกัดเงินเฟ้อ แม้ว่าการดำเนินการดังกล่าวอาจส่งผลกระทบทำให้เศรษฐกิจเผชิญภาวะถดถอย