FSSIA แนะเก็บ 4 หุ้นรับค่ากลั่นพุ่ง ยก ESSO ท็อปพิก การันตีกำไรแกร่ง!
FSSIA แนะเก็บ 4 หุ้น ESSO, TOP, BCP, SPRC หลังดีมานด์น้ำมันดีเซลเพิ่มขึ้น หนุนค่าการกลั่นพุ่งแรง จับตาฤดูหนาวปรับตัวขึ้นต่อ ยก ESSO-TOP ท็อปพิกกลุ่ม การันตีกำไรแกร่ง!
นายสุวัฒน์ สินสาฎก กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือ FSSIA ระบุในบทวิเคราะห์มองว่าความต้องการน้ำมันดีเซลอย่างมากในยุโรปจะช่วยหนุนค่าการกลั่นในไตรมาส 4/2565
โดยอ้างอิงจากการรายงานข่าวของรอยเตอร์ที่ระบุว่าโรงกลั่น BP ที่สหรัฐฯ ด้วยกำลังการผลิต 430,000bpd ต้องหยุดการทำงานบางส่วนจากเหตุไฟไหม้ตั้งแต่เมื่อวันที่ 24 สิงหาคม 2565 ซึ่งยิ่งส่งผลให้อุปทานทั้งที่สหรัฐฯ และทั่วโลกยิ่งตึงตัวมากขึ้น และยังเป็นการเสริมมุมมองของ FSSIA ต่อเรื่องแนวโน้มค่าการกลั่นที่คาดว่าจะแข็งแกร่งขึ้น ในขณะที่จะได้เห็นราคาน้ำมันดิบ ก๊าซ และถ่านหินที่สูงขึ้นอีกในหน้าหนาวนี้
ส่วนยุโรปนั้นยิ่งเพิ่มการพึ่งพิงน้ำมันดีเซลจากรัสเซียมากยิ่งขึ้นแทนที่จะน้อยลง ซึ่งจะใช้เป็นพลังงานทดแทนก๊าซธรรมชาติ รวมถึงข้อจำกัดภายในระบบการกลั่นของโลก ทำให้ FSSIA มองว่าความต้องการที่จะตุนพลังงานดีเซลไว้อาจเป็นเรื่อง ‘ชี้เป็นชี้ตาย’ ได้ในหน้าหนาวนี้ ในขณะที่น้ำมันใสคงคลังของสหรัฐฯ และยุโรปปรับตัวลดลงแตะจุดต่ำสุดในรอบ 32 ปี
ทั้งนี้ FSSIA ระบุว่า EU ประสบความสำเร็จในการลดการพึ่งพิงน้ำมันนำเข้าจากรัสเซีย แต่ยังไม่สามารถลดการพึ่งพิงน้ำมันดีเซลได้ โดยข้อมูลจาก EIA ชี้ว่าการนำเข้าน้ำมันดีเซลของยุโรปจากรัสเซียปรับตัวสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดในปีนี้แตะ 680,000bpd ในเดือนก.ค. ถือเป็นการเพิ่มขึ้น 13% เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา และ 22% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนซึ่งเป็นตัวเลขที่สูงกว่าการจัดหาจากประเทศอื่นๆ ที่อยู่แค่ 230,000bpd และยังเป็นการเปลี่ยนเทรนด์การนำเข้าจากก่อนช่วงเกิดโควิด-19 ที่ยุโรปพึ่งพิงผู้ผลิตจากประเทศอื่นมากกว่ารัสเซีย
อย่างไรก็ตามด้วยเหตุนี้ จึงตั้งข้อสังเกตุว่ายุโรปจะสามารถลดการพึ่งพิงการนำเข้าน้ำมันดีเซลจากรัสเซียได้หรือไม่ และจะสามารถแบนรัสเซียได้อย่าง 100% ภายในไตรมาส 1/2566 หรือไม่ หลังจากที่ค่าการกลั่นร่วงลงแตะจุดต่ำสุดที่ 5-7 เหรียญ/บาร์เรลในเดือนก.ค. จากจุดสูงสุด 19-25 เหรียญ/บาร์เรล ที่ทำไว้ในไตรมาส 2/2565 โดยค่าการกลั่นในขณะนี้รีบาวนด์กลับขึ้นมาสู่ระดับ 18-20 เหรียญ/บาร์เรล ส่วน FSSIA มองว่าค่าการกลั่นตลาดจะอยู่ที่ 18.3 เหรียญ/บาร์เรล
สำหรับกลุ่มโรงกลั่นไทยทางฝ่ายวิจัยมองหุ้น บริษัท เอสโซ่ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ ESSO, บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP,บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP และ บริษัท สตาร์ ปิโตรเลียม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC โดยเรียงจากมากไปหาน้อย และยังยกให้ ESSO เป็นหุ้นท็อปพิกจากอัพไซด์การเติบโตของกำไรจากค่าการกลั่นที่สูง อัตราการใช้โรงกลั่น และค่าการตลาดในธุรกิจขั้นปลายที่เพิ่มขึ้น
ขณะเดียวกันมองว่ากำไรของ TOP จะพุ่งสูงขึ้นด้วยเช่นกัน จากค่าการกลั่นที่เพิ่มขึ้น ขาดทุนจากการประกันความเสี่ยงที่ลดลง จากไตรมาสก่อนหน้า และกำไรที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจนอกเหนือจากการกลั่น
ทั้งนี้ FSSIA ให้ราคาเป้าหมายหุ้นโรงกลั่นไว้ที่ ESSO แนะนำราคาเป้าหมาย 13 บาท,TOP ราคาเป้าหมาย 70 บาท, BCP ราคาเป้าหมาย 41 บาท และ SPRC ราคาเป้าหมาย 14.60 บาท