FSSIA คัด 7 หุ้นรับราคา “พลังงาน” พุ่ง อานิสงส์หน้าหนาวยุโรป

นายสุวัฒน์ สินสาฎก กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ที่ปรึกษาการลงทุน เอฟเอสเอส อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด หรือ FSSIA ระบุในบทวิเคราะห์หุ้นกลุ่มพลังงาน และสาธารณูปโภคในไทย โดยเชื่อว่าราคาถ่านหิน ดีเซล น้ำมัน และ LPG จะพุ่งสูงขึ้นในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้จากความต้องการพลังงานจะปรับตัวสูงขึ้นอย่างมาก เพื่อใช้เป็นพลังงานทดแทนสำหรับหน้าหนาวในยุโรป และเพื่อหลีกเลี่ยงแนวโน้มที่อาจเกิดความไม่สงบจากภาวะความยากจนด้านเชื้อเพลิงที่จะเกิดขึ้นจากการขาดแคลนอย่างมากสำหรับพลังงานทำความร้อน

โดย FSSIA มองว่าปัจจัยหลักที่จะผลักดันราคาได้คือการที่รัสเซียตัดการจ่ายก๊าซยุโรปทั้งหมด ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ในช่วงเดือนกันยายนนี้ก่อนที่ยุโรปจะเข้าสู่หน้าหนาวหากรัสเซียต้องการใช้ก๊าซเป็นอาวุธต่อสู้กับยุโรป

ด้าน Ofgem ซึ่งเป็นหน่วยงานกำกับดูแลด้านพลังงานในสหราชอาณาจักร ระบุว่าความยากจนด้านเชื้อเพลิงจะเป็นปัญหาที่กระจายออกในวงกว้างหลังการขึ้นบิลค่าพลังงาน 80% ส่งผลให้เพดานค่าพลังงานแตะ 3,549 ปอนด์ต่อครัวเรือน โดยจะเริ่มต้นในวันที่ 1 ต.ค. 65 และยังคาดว่าครัวเรือนที่จะประสบปัญหาความยากจนด้านเชื้อเพลิงในอังกฤษจะสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดดแตะ 9.2 ล้าน ในเดือน ต.ค.65 คิดเป็น 38.9% ของครัวเรือนทั้งหมด ก่อนจะเพิ่มขึ้นเป็น 10.5 ล้านครัวเรือน (44.4% ของทั้งหมด) ในเดือนม.ค. 66 นอกจากนั้นยังคาดว่าจะมีผู้เสียชีวิต 11,400 รายในช่วงหน้าหนาวของอังกฤษรอบนี้ (ต.ค. 22-เม.ษ. 23)

ทั้งนี้ IMF รายงานว่าเยอรมนีสามารถลดการอุปโภคก๊าซได้ 15% ตามเป้า และยังสามารถกักเก็บก๊าซในคลังได้ถึง 82.74% ณ ข้อมูลวันที่ 29 ส.ค.65 แต่การประสบความสำเร็จในครั้งนี้หลักๆมาจากการปิด และลดกำลังการผลิตของผู้ใช้อุตสาหกรรมรายใหญ่ในเดือนมิ.ย.65 ที่เป็นช่วงราคาก๊าซปรับตัวขึ้นสูง แต่ก็ต้องแลกด้วยผลลัพธ์ที่ตามมาอย่างสาหัส ซึ่งการลดการใช้ก๊าซนั้นส่งผลให้ตัวเลขการผลิต และการบริการต้องติดลบในเดือน ก.ค. ครั้งแรกในรอบ 2 ปี และนำมาสู่การปรับลดคาดการณ์การเติบโต GDP จาก IMF ลงเหลือ 1.2% ในปี 65 และ 0.8% ในปี 66 จากต้นทุนก๊าซที่สูง

อย่างไรก็ตาม FSSIA คงคาดการณ์ราคาน้ำมันดูไบปี 65 – 67 ที่ $120/110/110 ส่วนราคาดีเซลจะปรับขึ้นสูงแต่ $180/bbl ในเดือนธ.ค.65 จากความต้องการที่สูงขึ้น โดยฝ่ายวิเคราะห์เลือก PTTEP (ราคาเป้าหมาย 180 บาท) และ BANPU (ราคาเป้าหมาย 18.80 บาท) เป็นท็อปพิกในกลุ่มน้ำมัน ก๊าซ และถ่านหิน ส่วน ESSO (ราคาเป้าหมาย 13.00 บาท) และ TOP (ราคาเป้าหมาย 70.00 บาท) เป็นท็อปพิกในกลุ่มโรงกลั่น ด้านผู้ได้รับประโยชน์จากค่า Ft สูง และ EV คือ BGRIM (ราคาเป้าหมาย 42 บาท), GULF (ราคาเป้าหมาย 60 บาท) และ EA (ราคาเป้าหมาย 101 บาท)