MTI ตั้งเป้าเบี้ยรับรวมโต 10% อานิสงส์เปิดเมือง-เจาะประกันรถ EV
MTI ตั้งเป้าเบี้ยประกันภัยรับรวมทั้งปีโต 6-10% หลังครึ่งปีแรกมีเบี้ยประกันภัยรับรวม 7,965 ล้านบาท รับแรงหนุนจากการเปิดประเทศ ส่งผลให้กิจกรรมทางด้านเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัว
นางปุณฑริกา ใบเงิน รองกรรมการผู้จัดการอาวุโส และ ผู้บริหารสูงสุดด้านการเงิน บริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด (มหาชน) หรือ MTI เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตของเบี้ยประกันภัยรับรวมทั้งปีที่ 6-10% ซึ่งเป็นการเติบโตมากกว่าภาพรวมตลาดที่คาดว่าจะเติบโตราว 2-6% หลังจากช่วงครึ่งปีแรกบริษัทมีเบี้ยประกันภัยรับรวม 7,965 ล้านบาท เติบโต 14.4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีเบี้ยประกันภัยรับรวมที่ 6,945 ล้านบาท
ขณะที่บริษัทคาดผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังจะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการเปิดประเทศประเทศ และ สถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่คลี่คลายไปในทิศทางที่ปรับตัวดีขึ้น ส่งผลให้กิจกรรมทางด้านเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัว
โดยบริษัทยังเดินหน้ากลยุทธ์ 5 ด้าน คือ 1.มุ่งเน้นการใช้เทคโนโลยีด้านดิชิทัลในการพัฒนาต่อยอดระบบการดำเนินการทั้งหมด 2.การออกผลิตภัณฑ์ให้เหมาะสม ตอบโจทย์ และสามารถแข่งขันได้ 3.มุ่งเน้นการให้ลูกค้าเป็นศูนย์กลาง สร้างการบริการให้สามารถต่อยอดไปในผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ได้เพิ่มเติม 4.ขยายการให้บริการให้ทุกช่องทาง ปัจจุบันบริษัทมีช่องทางการจำหน่ายที่หลากหลาย แบ่งเป็นศูนย์บริการลูกค้า 22 แห่ง ทั่วประเทศ มี Call canter ให้บริการ 24 ชั่วโลก และมีช่องทางการจำหน่ายผ่านสาขาของธนารคารต่างๆ รวมไปถึงการมีตัวแทนจำหน่ายที่แข็งแรง ซึ่งบริษัทมีอยู่กว่า 5,000 ราย 5.สร้างบุคลาการให้มีความพร้อมกับการขยายตัวในอนาคต
“ในปีนี้เรามีการเติบโตจากปัจจัยหลายๆอย่าง ทั้งแผนการเปิดประเทศของไทย ที่ช่วยให้กิจกรรมทางด้านเศรษฐกิจกลับมาได้ รวมไปถึงการโอนย้ายประกันจากประกันหลายๆรายที่ปิดตัวไป นอกจากนี้เรายังคงดำเนินกลยุทธ์ที่มีประสิทธิภาพช่วยสนับสนุนการเติบโตของบริษัทในช่วงครึ่งปีแรกและต่อเนื่องไปในช่วงครึ่งปีหลังด้วย”นางปุณฑริกา กล่าว
นอกจากนี้ บริษัทยังได้มีการขยายตลาดประกันภัยไปในตลาดใหม่ๆอย่างต่อเนื่อง อาทิ กลุ่มยานยนต์ไฟฟ้า ทั้ง รถยนต์นั่งส่วนบุคคล รถบัส รถบรรทุก และ เรือ
ทั้งนี้ บริษัทยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างความเข้มแข็งอย่างต่อเนื่องในประเทศที่ได้เข้าไปขยายกิจการด้วย อาทิใน สปป.ลาว ในขณะเดียวกันยังคงมองหาการเติบโตอย่างต่อเนื่องไปในกลุ่มประเทศ CLMV และอาเซียน