เตรียมชง! “พลังงาน” เสนอ ครม.ชงเยียวยา “ไฟฟ้า-ก๊าซ” 13 ก.ย.นี้
กระทรวงพลังงาน เตรียมเสนอ ครม.อนุมัติมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้า และก๊าซ LPG วันที่ 13 ก.ย. 65 โดยคาดว่าจะสามารถเริ่มได้ช่วงกลางเดือนตุลาคม เนื่องจากต้องรองบประมาณปี 66
นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า กระทรวงพลังงาน เตรียมเสนอมาตรการบรรเทาผลกระทบด้านพลังงานแก่ประชาชน ในด้านค่าไฟฟ้าและราคาก๊าซหุงต้ม หรือ LPG ตามมติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน หรือ กบง. เมื่อวันที่ 22 สิงหาคม 2565 โดยจะนำเข้าสู่ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ในวันที่ 13 กันยายน 65 เพื่อเร่งช่วยเหลือด้านค่าครองชีพของประชาชนในภาวะปัจจุบัน ซึ่งมาตรการช่วยเหลือดังกล่าวประกอบด้วย
สำหรับมาตรการช่วยเหลือค่าไฟฟ้า สำหรับบ้านอยู่อาศัยไม่เกิน 500 หน่วย/เดือน ได้แก่
1.กลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าไม่เกิน 300 หน่วยต่อเดือน ซึ่งเป็นกลุ่มเปราะบางให้ส่วนลดค่าไฟฟ้า 92.04 สตางค์ต่อหน่วย (ประกอบด้วย ส่วนลดจากการเพิ่มขึ้นของค่า Ft เดือนพฤษภาคม – สิงหาคม 65 จำนวน 23.38 สตางค์ต่อหน่วย และส่วนลดจากการเพิ่มขึ้นของค่า Ft เดือนกันยายน – ธันวาคม 65 จำนวน 68.66 สตางค์ต่อหน่วย) เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและช่วยลดภาระค่าครองชีพของผู้ใช้ไฟฟ้าเป็นเวลา 4 เดือน ตั้งแต่เดือนกันยายน – ธันวาคม 65
2.กลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าที่ใช้ไฟฟ้าระหว่าง 301 – 500 หน่วย/เดือน ให้ส่วนลดจากการเพิ่มขึ้นของค่า Ft เดือนกันยายน – ธันวาคม 65 แบบขั้นบันได 15 – 75%
ทั้งนี้ การดำเนินมาตรการตามแนวทางช่วยเหลือกลุ่ม (1) และ (2) ซึ่งเป็นผู้ใช้ไฟฟ้าในพื้นที่ของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และ การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) จะครอบคลุมผู้ใช้ไฟฟ้าประมาณ 80% ของผู้ใช้ไฟฟ้าทั่วประเทศหรือคิดเป็น 89% ของผู้ใช้ไฟฟ้าประเภทบ้านอยู่อาศัย นอกจากนี้ จะดำเนินการให้ครอบคลุมบ้านที่อยู่อาศัยที่เป็นผู้ใช้ไฟฟ้ารายย่อยของ กฟผ. และผู้ใช้ไฟฟ้าของกิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือด้วย
ส่วนมาตรการช่วยเหลือค่าก๊าซหุงต้ม ขยายเวลาให้ส่วนลดค่าซื้อก๊าซหุงต้มแก่ผู้มีรายได้น้อยเพิ่มเติม ผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจาก 45 บาท/คน/ 3 เดือน เพิ่มขึ้นอีก 55 บาท/คน/3 เดือน รวมเป็น 100 บาท/คน/ 3 เดือน เดิมมีกำหนดสิ้นสุดโครงการวันที่ 30 กันยายนนี้ ให้ต่อไปอีก 3 เดือน ทั้งนี้ ในส่วนลดที่เพิ่ม 55 บาท/คน/3 เดือน คาดว่าจะสามารถใช้ได้ช่วงปลายเดือนตุลาคม 2565 โดยกระทรวงพลังงานจะแจ้งกำหนดที่แน่นอนเมื่อได้รับงบกลางปี 2566 แล้ว ต่อไป