ฉลุย! คลังค้ำประกัน “กฟผ.” กู้เงิน 8.5 หมื่นล้าน หลังแบกภาระค่าเอฟที
ครม. ไฟเขียว “กฟผ.” กู้บริหารสภาพคล่องโดยคลังค้ำประกันวงเงิน 8.5 หมื่นล้านบาท เสริมสภาพคล่องหลังแบกรับภาระค่าเอฟที พร้อมเตรียมส่งเสริมโซลาร์รูฟท็อปมากขึ้น
นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พลังงาน เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะรักษาการนายกรัฐมนตรี เป็นประธานที่ประชุม ว่า ครม.ได้เห็นชอบการกู้เงินเพื่อบริหารภาระค่าไฟฟ้าอัตโนมัติ (Ft) ของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ตามนโยบายของรัฐบาลประจำปีงบประมาณ 2566 โดยให้คลังค้ำประกัน วงเงิน 8.5 หมื่นล้านบาท ทั้งนี้เพื่อเสริมสภาพคล่องให้ กฟผ.หลังจากต้องแบกรับภาระการช่วยดูแลค่า Ft ช่วงที่ผ่านมาแทนประชาชนเพื่อลดผลกระทบ
ส่วนเรื่องการช่วยเหลือค่าไฟฟ้าให้กับประชาชนโดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อยนั้นจะนำเอามติคณะกรรมการบริหารนโยบายพลังงาน (กบง.) ที่มีการประชุมฯ ที่กระทรวงพลังงานที่เห็นชอบแนวทางการช่วยเหลือไว้แล้วเข้าสู่การพิจารณาใน ครม.วันที่ 13 ก.ย.นี้ ทั้งในส่วนของการขยายเวลามาตรการการดูแลผลกระทบก๊าซหุงต้ม (LPG) ให้ผู้มีรายได้น้อยผ่านบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ โดยให้ส่วนลด 100 บาทต่อคนต่อ 3 เดือนไปจนถึงสิ้นสุด 31 ธ.ค. 65 ส่วนค่าไฟแบ่งเป็น 2 กลุ่ม คือ 1.กลุ่มผู้ใช้ไฟฟ้าบ้านอยู่อาศัยที่ใช้ไฟฟ้าเกิน 300 หน่วยต่อเดือนจ่ายคงเดิม 3.78 บาทต่อหน่วย
2.กลุ่มใช้ไฟฟ้าระหว่าง 301-500 หน่วยต่อเดือน โดยการให้ส่วนลดจากการเพิ่มขึ้นของค่า Ft เดือน ก.ย.-ธ.ค. 2565 แบบขั้นบันได ในอัตรา 15-75% โดยผู้ใช้ไฟฟ้ากลุ่มนี้หากต้องการที่จะได้รับส่วนลดค่า Ft ก็จะต้องประหยัดไฟฟ้าตามสัดส่วนต่างๆ หรือถ้าเกิน 501 หน่วยต่อเดือน ก็จะต้องจ่ายค่าไฟฟ้าในอัตราหน่วยละ 4.72 บาท ตามการปรับขึ้นของ กกพ. เป็นต้น
ทั้งนี้แนวทางจะเป็นการทำคู่ขนานกันไปในเรื่องของการดูแลช่วยเหลือประชาชน และจะมีในเรื่องของการส่งเสริมการติดตั้งโซลาร์เซลล์บนหลังคา (โซลาร์รูฟท็อป) ซึ่งหลายคนให้ความสนใจ โดยมีขั้นตอนต่างๆ ซึ่งเป็นความร่วมมือกันหลายหน่วยงานทั้ง 3 การไฟฟ้า และกระทรวงพลังงานเองเพื่อให้กระบวนการต่างๆ ในการอนุมัติมีความรวดเร็วมากขึ้น เพื่อให้ภาคครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพและความต้องการติดตั้งทำได้รวดเร็วมากขึ้น