จับตา 5 หุ้นเด้งรับ “ไอโฟน 14” จองพร้อมอเมริกา 9 ก.ย.นี้

จับตา 5 หุ้นเด้งรับ “ไอโฟน 14” เปิดจองพร้อมอเมริกา 9 ก.ย.เวลา 19.00 น. ผ่านทางเว็บไซด์แอปเปิลไทยแลนด์ และเริ่มวางจำหน่ายหน้าร้านในวันที่ 16 ก.ย.นี้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า งานแอปเปิล อีเวนต์ ซึ่งจัดขึ้นแบบออนไลน์ เมื่อช่วงคืนวันที่ 7 กันยายน หรือย่างเข้าสู่วันที่ 8 กันยายน ตามเวลาในไทย แอปเปิล ได้เปิดตัวผลิตภัณฑ์หลัก รุ่นใหม่ 3 ตัว คือ แอปเปิล วอทช์ ,แอร์พอดส์ และ ไอโฟน 14 เป็นที่เรียบร้อยแล้ว

โดยตัวแรกที่เปิดตัวเป็น แอปเปิล วอทช์ ซีรีส์ 8 ที่มีจุดเด่นอยู่ที่การใส่ตัวเซ็นเซอร์วัดอุณหภูมิเข้าไปเป็นครั้งแรก ทั้งนี้ เพื่อใช้สำหรับการวัดรอบของการเวลาไข่ตก หรือรอบประจำเดือนของผู้หญิงได้แม่นยำยิ่งขึ้น นอกจากนี้ ก็ยังมีการเพิ่ม แครช ดีเทคชั่น ที่ช่วยตรวจับกับกระแทก ที่เปิดตัวในราคา 399 ดอลลาร์สหรัฐ

อีกทั้งที่เป็นบิ๊ก เซอร์ไพรส์ สำหรับแอปเปิล วอทช์ ก็น่าจะเป็น แอปเปิล วอทช์ อัลตร้า ที่ออกแบบมาสำหรับบรรดาผู้ชื่นชอบกีฬาแนวแอดเวนเจอร์ ทั้งหลาย รวมไปถึงความสามารถพิเศษในการอยู่ใต้น้ำ สำหรับบรรดานักดำน้ำ ที่มีฟีเจอร์ต่างๆ รองรับมากมาย เคสที่เป็นไทเทเนียม และแบตเตอรี่ ใช้ได้นานสูงสุดถึง 60 ชั่วโมง โดยราคาอยู่ที่ 799 ดอลลาร์สหรัฐ

ต่อกันที่ผลิตภัณฑ์ที่หลายคนอยากเห็นอีกอย่างคือ หูฟัง สำหรับ แอร์พอดส์ โปร รุ่นใหม่ ที่ใช้ชิป เอชทู ให้ความเหมือนจริงของเสียงเหมือนกับอยู่บนเวที หรือจะเป็นความสามารถในการตัดเสียงรบกวนรอบข้างได้ดีขึ้น และยังสามารถปรับเปลี่ยนจุกหูฟังได้ตามขนาดหูของเราด้วย โดยการควบคุมนั้น รุ่นนี้สามารถใช้การควบคุมด้วยการสัมผัส สไลด์ที่ก้านหูฟัง ขณะที่เคส ของแอร์พอดส์ โปร ใหม่นี้ จะมีลำโพงอยู่ที่เคสด้วย เอาไว้สำหรับตามหา แล้วเปล่งเสียงออกมา หรือจะมีการเตือนเมื่อแบตเตอรี่เหลือน้อย ราคาอยู่ที่ 249 ดอลลาร์สหรัฐ

สุดท้าย กับไอโฟน 14 ซึ่งนี่ เป็นไปตามที่มีข่าวลือออกมาก่อนหน้านี้ว่าจะมีการปรับเปลี่ยนรุ่นเล็ก คือ จะเป็น ไอโฟน 14 กับ ไอโฟน 14 พลัส ที่มีหน้าจอใหญ่ขึ้น เป็น 6.1 และ 6.7 นิ้วตามลำดับ ไม่มีรุ่นมินิเหมือนเมื่อก่อน และแบตเตอรี่ดีที่สุดเท่าที่เคยมีมา และใช้ชิป เอ15 ไบโอนิก โดยมีให้เลือกถึง 5 สี โดยสีที่มีเพิ่มขึ้นมาใหม่ในปีนี้คือสีม่วง Deep Purple

ขณะที่กล้องหลัง ยังคงมี 2 ตัว และมีความสามารถในการถ่ายภาพที่ดีขึ้น แม้ในที่แสงน้อย รวมทั้งยังรองรับ อีซิมอีกด้วย แต่จะใช้ได้เฉพาะในสหรัฐ ที่เครื่องจะไม่มีถาดซิมมาให้เลย ในส่วนของประเทศอื่นๆ ยังคงเหมือนเดิม คือมีถาดสำหรับใส่ซิมมาให้

อีกอย่างที่ต้องมีในอุปกรณ์เกือบทุกชิ้นของงานนี้ คือการรองรับ แครช ดีเทคชั่น ที่ช่วยตรวจจับการกระแทกอย่างรุนแรงได้ ที่สำคัญ คือมีฟีเจอร์ ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือผ่านดาวเทียม ที่ถือว่าใหม่ล่าสุดจริงๆ แต่อันนี้ จะต้องมีค่าใช้จ่าย เพียงแต่สำหรับรุ่น 14 จะใช้ฟรี 2 ปีแรก และใช้ได้เฉพาะในสหรัฐและแคนนาดาเท่านั้น สำหรับราคาเริ่มต้น จะอยู่ที่ 799 ดอลลาร์สหรัฐ

สุดท้าย สำหรับคนที่รอคอยรุ่นใหญ่ อย่างรุ่นโปร ก็มี ไอโฟน 14 โปร และ ไอโฟน 14 โปรแม็กซ์ ที่แม้ว่า รูปร่างหน้าตาข้างนอก ดูจะเหมือนเดิม ขนาดอยู่ที่ 6.1 และ 6.7 นิ้วตามลำดับ แต่ข้างใน ถือว่า มีการเปลี่ยนแปลงพอสมควร เริ่มจากชิป ที่ใช้เอ15 ไบโอนิก ที่ช่วยทำงานได้ดีกับระบบกล้องที่ให้มา ที่ทำให้กล้องถ่ายภาพได้ดีขึ้น ชัดขึ้น ป้องกันการสั่นไหวได้ดี ถ่ายคลิปภาพเคลื่อนไหวได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

โดยมีจุดเด่นเพิ่มขึ้นคือ แถบด้านบนของเครื่องนั้นจะไม่มีรอยบากแล้ว แต่จะเปลี่ยนเป็น สิ่งที่แอปเปิล เรียกว่า “ไดนามิก ไอส์แลนด์” ที่เป็นหน้าต่างเล็กๆ ไว้สำหรับการแจ้งเตือนการทำงานต่างๆ เช่น สายเค้า เฟซไอดี เพลงที่เล่น แจ้งเตือนข้อความต่างๆ เป็นต้น และแน่นอน กล้องด้านหลังมี 3ตัว และสามารถใช้งาน ขอความช่วยเหลือผ่านทางดาวเทียมได้ รวมทั้งแครช ดีเทคชั่น โดยราคาเริ่มต้นที่ 999 ดอลลาร์สหรัฐ และมีให้เลือก 4 สี สวยๆ โดยเป็นที่สังเกตว่า งานนี้ แอปเปิล ชูตัวเครื่องสีม่วงให้ดูเป็นหลัก

อย่างไรก็ตามมีรายงานว่า สำหรับประเทศไทยจะสามารถจองเครื่องได้พร้อมสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรกในวันที่ 9 กันยายน 2565 เวลา 19.00 น. ผ่านทางเว็บไซด์แอปเปิลไทยแลนด์ และเริ่มวางจำหน่ายหน้าร้านในวันที่ 16 กันยายนนี้ โดยราคา iPhone 14 จอ 6.1 นิ้ว เปิดตัวราคาไทย 32,900 บาท ส่วน iPhone 14+ จอ 6.7 นิ้ว เปิดตัวราคาไทย 37,900 บาท และ iPhone14 Pro จอ 6.1 นิ้ว เปิดตัวราคาไทย 41,900 บาท และ iPhone14 Pro Max จอ 6.7 นิ้ว เปิดตัวราคาไทย 44,900 บาท

ทั้งนี้จับตา 5 หุ้นเด่นกลุ่มค้าปลีกไอที อาทิ CPW, SPVI, COM7, SYNEX และ JMART ได้รับประโยชน์การเปิดจองไอโฟน 14 พร้อมสหรัฐอเมริกาเป็นครั้งแรกในวันที่ 9ก.ย.นี้

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) เผยว่า Apple วางแผนจะจัดงานเปิดตัวสินค้าใหม่ของปี 2565 วันที่ 7 ก.ย. 2565 โดยมีการคาดการณ์ว่าจะมีการเปิดตัว Apple IPhone รุ่นที่ 14 และ Apple Watch Series 8 ซึ่งจะเป็นจิตวิทยาบวกต่อกลุ่มผู้จำหน่ายสินค้า Apple อาทิ บริษัท คอปเปอร์ ไวร์ด จำกัด (มหาชน) หรือ CPW, ส่วนล่างของฟอร์มบริษัท เอส พี วี ไอ จำกัด (มหาชน) หรือ SPVI, บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ SYNEX, บริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART และ บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7

ขณะที่ บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุบทวิเคราะห์ว่า บริษัท คอมเซเว่น จำกัด (มหาชน) หรือ COM7 ลุ้นยอดขายเพิ่มขึ้นจากสินค้าเรือธงแบรนด์ Apple-iphone 14 ที่เตรียมเปิดตัวในวันที่ 7 ก.ย.นี้ กระแสตอบรับดี โดยในช่วงนี้ยอดขาย iPhone ทั้งรุ่นที่ 13-14 จะเพิ่มขึ้น

และคาดสาขาใหม่ที่เพิ่มขึ้นมากว่า 150 แห่งในปีนี้ จะมียอดขายเฉลี่ยต่อสาขา (SSSG) เพิ่มขึ้นในครึ่งหลังของปีนี้ หลังการเปิดเมืองอย่างเป็นทางการ คนทำงาน-เรียน Onsite เกิน 80-90% ประเมินกำไรสุทธิปี 2565-2566 ของ COM7 ที่ 2.98 พันล้านบาท และ 3.55 พันล้านบาท เพิ่ม 13% และ 19% ตามลำดับ

ขณะที่ นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS แนะนำกลยุทธ์การลงทุนที่ได้ประโยชน์จากการเปิดตัว iPhone 14 ทั้งนี้แอปเปิลประกาศจัดอีเวนต์ในวันที่ 7 ก.ย.นี้ ซึ่งหุ้นที่คาดว่าจะได้รับอานิสงส์จากปัจจัยดังกล่าว ได้แก่ CPW, SPVI, COM7, SYNEX และ JMART

Back to top button