AOT แจง “ดอนเมือง” ไม่พร้อมรับ A380 เชิงพาณิชย์ เว้นเหตุฉุกเฉิน
AOT แจงกรณี “แอร์บัส A380” ลงจอดฉุกเฉินที่สนามบินดอนเมืองเป็นครั้งแรก หลังท่าอากาศยานสุวรรณภูมิมีฝนตกหนักจนไม่สามารถทำการบินขึ้น-ลงได้ พร้อมระบุ “สนามบินดอนเมือง” ยังไม่พร้อมรองรับเครื่องแอร์บัส เนื่องจากมีที่ว่างในการลงจอดไม่เพียงพอสำหรับขนาดเครื่องบิน
บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ AOT เปิดเผยว่า การลงจอดของอากาศยานแบบ แอร์บัส A380 ของสายการบินเอมิเรตส์ แอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ EK363 ที่ท่าอากาศยานดอนเมือง (ทดม.) เมื่อคืนวันที่ 7 ก.ย. ที่ผ่านมา เนื่องจากที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) มีฝนตกหนัก จนทำให้ไม่สามารถทำการบินขึ้น-ลงได้นั้น ถือเป็นการขอลงจอดฉุกเฉินที่ ทดม. เป็นครั้งแรก โดยก่อนหน้านี้ ทดม. มีโอกาสต้อนรับอากาศยานแบบ แอร์บัส A380 มาแล้ว แต่เป็นในลักษณะของการลงจอด เพื่อมาทดสอบ หรือมาโชว์มากกว่า ไม่ได้ทำการบินแบบเชิงพาณิชย์ หรือขอลงจอดฉุกเฉิน
สำหรับท่าอากาศยานดอนเมือง อยู่ภายใต้การดูแลของ ทอท. ได้รับการจัดตั้งตามพระราชบัญญัติการท่าอากาศยานแห่งประเทศไทย พ.ศ.2522 เป็นสนามบินที่ได้รับการรับรองมาตรฐานสากล และเป็นท่าอากาศยานสำรองของ ทสภ. เนื่องจากมีความยาวทางวิ่ง(รันเวย์) ขนาดมากกว่า 3,500 เมตร เพียงพอที่จะรองรับอากาศยานขนาดใหญ่ อาทิ แอร์บัส A380 โดย ทดม. เป็นท่าอากาศยานรหัส CODE E รองรับเครื่องบินแบบโบอิ้ง 747 หรือโบอิ้ง 777 เป็นส่วนใหญ่
โดยเครื่องบินแบบแอร์บัส A380 นั้น จะลงจอดได้เฉพาะที่ท่าอากาศยานรหัส CODE F ยกเว้นเป็นการขอลงจอดฉุกเฉิน ก็สามารถลงจอดที่ท่าอากาศยานดอนเมืองได้ เพียงแต่ทางขับขนานบางช่วงมีความกว้างไม่เพียงพอสำหรับขนาดของเครื่องบินแบบแอร์บัส A380 ทำให้เครื่องยนต์อาจจะดูดสิ่งแปลกปลอมเข้ามาได้ และจะเกิดความไม่ปลอดภัย ดังนั้นถ้าไม่จำเป็นอากาศยานแอร์บัส A380 จะไม่ลงจอด จะใช้กรณีฉุกเฉินเท่านั้น
อย่างไรก็ตามปัจจุบันในประเทศไทยนั้น อากาศยานแบบแอร์บัส A380 สามารถลงจอดให้บริการได้ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเท่านั้น ยกเว้นจะขอลงจอดฉุกเฉินก็สามารถจอดได้ที่ท่าอากาศยานต่างๆ อาทิ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานหาดใหญ่ ท่าอากาศยานอุดรธานี ท่าอากาศยานอุบลราชธานี ท่าอากาศยานสุราษฎ์ธานี และท่าอากาศยานอู่ตะเภา เป็นต้น แต่ท่าอากาศยานเหล่านี้ จะยังไม่พร้อมในเรื่องสิ่งอำนวยความสะดวกในการให้บริการ จึงได้แค่ลงจอดฉุกเฉิน
