โบรกคัด 3 หุ้น “รพ.” ลุ้น Q3 กำไรแกร่ง ผู้ป่วยต่างชาติหนุน ชู BH ท็อปพิก เป้า 245 บ.

โบรกคัด 3 หุ้น กลุ่มรพ. ลุ้นไตรมาส 3/65 กำไรโตแกร่ง ผู้ป่วยต่างชาติหนุน ชู BH ท็อปพิก ได้รับผลประโยชน์มากที่สุดจากสัดส่วนรายได้ต่างชาติเพิ่มขึ้น โบรกแนะ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 245 บ.


บล.ดาโอ (ประเทศไทย) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ทางฝ่ายวิจัยยังคงน้ำหนักการลงทุนในกลุ่มโรงพยาบาลเป็นมากกว่าตลาด เนื่องจาก 1. มาตรการเปิดประเทศส่งเสริมให้การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพฟื้นตัวขึ้น จากความต้องการใช้ที่ไม่ได้รับการปลดปล่อย ช่วงโควิด-19 โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าตะวันออกกลาง และ CLMV ที่เห็นการฟื้นตัวอย่างชัดเจน และ 2. ผู้ป่วยทั่วไปในประเทศฟื้นตัวจากเคสผ่าตัด และได้ปัจจัยหนุนจากฤดูกาลหน้าฝน ซึ่งช่วยชดเชยรายได้ที่เกี่ยวกับโควิดที่ลดลง

โดยเบื้องต้น ประเมินผลประกอบการกลุ่มในไตรมาส 3/65 ชะลอตัวทั้งเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนและจากไตรมาสก่อนหน้าจากผลประกอบการกลุ่มโรงพยาบาลที่เคยได้อานิสงส์จากโควิด-19 ชะลอตัวหลังรัฐปรับมาตรการการชดเชยค่ารักษา, ยกเลิกโรงพยาบาล และการดูแลตัวเองจากที่บ้าน ด้านผลประกอบการของโรงพยาบาลที่มีสัดส่วนรายได้ผู้ป่วยต่างชาติสูง อาทิ บริษัท โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BH, บริษัท กรุงเทพดุสิตเวชการ จำกัด(มหาชน) หรือ BDMS ,บริษัท โรงพยาบาลพระรามเก้า จำกัด (มหาชน) หรือ PR9 ยังคงเห็นการเติบโตต่อเนื่องทั้งเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และจากไตรมาสก่อนหน้าจากผู้ป่วยต่างชาติที่ขยายตัว

รวมทั้งอัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ที่เพิ่มขึ้นจากสัดส่วนผู้ป่วยต่างชาติซึ่งมี GPM สูงเพิ่มขึ้น โดยทางฝ่ายวิจัยคาดนักท่องเที่ยวต่างชาติขยายตัวเพิ่มขึ้น 138% จากไตรมาสก่อนหน้าหลังการยกเลิก Thailand Pass จะเห็นได้ว่าในเดือน ก.ค.65 นักท่องเที่ยวปรับตัวเพิ่มขึ้น 47% เมื่อเทียบกับเดือนที่ผ่านมา

สำหรับโรงพยาบาลที่ได้ประโยชน์จากการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ได้แก่ BH แนะ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 245.00 บาท และ BDMS แนะ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 35.50 บาท และ PR9 แนะ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 19.00 บาท เพราะมีสัดส่วนของรายได้จากผู้ป่วยต่างชาติมาก โดยหลังจากสถานการณ์โควิดดีขึ้นมาก จึงมีโอกาสที่รายได้ส่วนต่างชาติฟื้นตัวดี และไตรมาส 3/65 เป็นช่วงไฮซีซั่นของกลุ่มนี้ โดยราคาหุ้นในกลุ่มโรงพยาบาล Outperform SET เพิ่มขึ้น 12% ใน 3 เดือนที่ผ่านมา จากการไม่ได้ปลดปล่อยช่วงโควิด-19 ของผู้ป่วยทั่วไปฟื้นตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง และผลประกอบการในไตรมาส 2/65 ออกมาดีกว่าที่คาด

โดยในกลุ่มโรงพยาบาลเราเลือก BH เป็นท็อปพิกจาก BH จะได้รับผลประโยชน์มากที่สุด เพราะมีสัดส่วนผู้ป่วยต่างชาติสูงที่ 67% ในขณะปัจจุบันมีรายได้ต่างชาติอยู่ที่ 62% และการประเมินมูลค่าไม่แพง โดยปัจจุบัน BH เทรดอยู่ที่ PER ปี 66 ที่ 39.7 เท่า เทียบกับการเติบโตของกำไรปี 65 เพิ่มขึ้น 220% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และในปี 66 เพิ่มขึ้น 11% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนตามลำดับ และยังมีอัพไซด์จากคนไข้ซาอุดิอาระเบีย และจีน

Back to top button