“เอสแอนด์พีโกลบอล” คาดปีนี้ “ค่าระวางเรือ” ร่วง 30% ส่งสัญญาณเศรษฐกิจถดถอย

สำนักข่าวซีเอ็นบีซี ระบุในรายงาน โดยอ้างอิงข้อมูลจากฝ่ายข่าวกรองการตลาดของเอสแอนด์พีโกลบอล ซึ่งกล่าวว่าค่าระวางสินค้าที่ลดลงยังเป็นผลพวงมาจากการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานที่ก่อตัวขึ้นในช่วงโควิด-19 ผ่อนคลายลง นอกจากนั้นแล้วความต้องการตู้คอนเทนเนอร์ และเรือขนส่งยังชะลอตัวด้วยเช่นกัน โดยได้รับผลกระทบจากประเภทการขนถ่ายที่อ่อนลง ซึ่งรวมถึงระดับความหนาแน่นของท่าเรือที่ผ่อนคลาย และสินค้าเทียบท่าที่ลดลง เป็นสาเหตุหลักของการร่วงลงของค่าระวางสินค้า

โดยเอสแอนด์พีโกลบอลยังระบุว่าจากคาดการณ์ปริมาณสินค้าที่อ่อนตัวลง ฝ่ายวิเคราะห์ไม่คิดว่าจะเผชิญกับความหนาแน่นของท่าเรือที่สูงอีกในอีกสองถึงสามไตรมาสข้างหน้า

ค่าระวางเรือสำหรับตู้คอนเทนเนอร์ และเรือเทกองซึ่งใช้ขนส่งวัตถุดิบ หรือกองรวม ปรับตัวลดลงอย่างต่อเรื่องมาตลอดสามเดือนที่ผ่านมา หลังจากค่าระวางทะยานสู่จุดสูงสุดในไตรมาส 2/65 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เร็วกว่าฝ่ายวิเคราะห์คาดไว้เนื่องจากปกติแล้วค่าระวางจะปรับตัวอย่างมากในช่วงไตรมาส 3/65 แต่จากข้อมูลการวิจัยของเอสแอนด์พีโกลบอลชี้ให้เห็นว่าจุดพีคของค่าระวางเรือน่าจะแตะจุดสูงสุดของปีนี้ไปแล้วในไตรมาสที่ผ่านมา

ทั้งนี้ ฝ่ายวิเคราะห์ระบุว่าคาดการณ์ดัชนีอัตราค่าเช่าเหมาลำจองเรือเทกอง หรือ Baltic Dry Index จะลดลงอีก 20-30% ในปีนี้ก่อนจะดีขึ้นเล็กน้อยในปี 2567 ซึ่งจะเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะถดถอยของโลกจากการที่ผู้อุปโภคบริโภคเริ่มถอยออกท่ามกลางค่าครองชีพ และเงินเฟ้อที่สูงขึ้น

สัญญาณสำคัญที่แสดงให้เห็นว่าโลกกำลังอยู่ในช่วงขาลงก็คืออัตราการเติบโตของการค้าขายโลกที่ซบเซา โดย องค์การการค้าโลก หรือ World Trade Organization ที่เปิดเผยข้อมูลปริมาณการค้าโลกแสดงให้เห็นว่ามีการเติบโตที่ช้า โดยอัตราการเติบโตในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้ชะลอตัวลงอยู่ที่ 3.2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 64 ในขณะที่ไตรมาส 4/64 มีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 5.7%

องค์การการค้าโลกระบุว่าสาเหตุส่วนหนึ่งของการชะลอตัวนั้นมาจากความขัดแย้งระหว่างยูเครน และรัสเซีย รวมถึงการล็อคดาวน์ในประเทศจีนหลังโควิด-19กลับมาระบาดอีกครั้ง

ถึงแม้ว่าองค์การการค้าโลกจะคาดว่าการค้าขายโลกจะสูงขึ้นในปีนี้ แต่ความไม่แน่นอนยังเพิ่มขึ้นจากความขัดแย้งในยูเครนที่ยืดเยื้อ ความกดดันจากภาวะอัตราเงินเฟ้อที่สูง และคาดการณ์นโยบายการเงินที่ตึงตัวในกลุ่มประเทศเศรษฐกิจที่พัฒนาแล้ว

ซึ่งความเห็นขององค์การการค้าโลกนั้นตรงกับฝ่ายข่าวกรองการตลาดของเอสแอนด์พีโกลบอล ที่ระบุว่าถึงแม้ฝ่ายวิเคราะห์จะคาดว่าจะเห็นการเพิ่มขึ้นของตลาดสินค้าเทกองในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ แต่ค่าระวางคาดว่าจะลดลงในอนาคตอันใกล้นี้จากการเติบโตทางเศรษฐกิจที่ช้ากว่าคาด และความอ่อนแอของกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ในจีน รวมถึงความหนาแน่นของท่าเรือที่หดหายไป

ทั้งนี้ ความเปลี่ยนแปลงใด ๆ ในประเทศจีนที่เกี่ยวข้องกับนโยบายโควิดเป็นศูนย์ และการหยุดรบระหว่างรัสเซีย และยูเครนอาจช่วยทำให้ค่าระวางเรือเทกองปรับสูงขึ้นได้ ในขณะเดียวกันหากความต้องการสินค้า และการอุปโภคบริโภคลดลงต่อเนื่องก็จะทำให้ค่าระวางเรือลดลงเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ข้อมูลจากธนาคารกลางนิวยอร์กที่เผยแพร่ตัวเลขดัชนีความกดดันในหาวงโซ่อุปทานโลก ชี้ให้เห็นว่ายังมีประเด็นเชิงบวกต่อเรื่องการค้าขายโลกอยู่ ซึ่งก็คือความกดดันในห่วงโซ่อุปทานโลกมีแนวโน้มที่จะผ่อนคลายต่อเนื่อง แม้จะยังอยู่ในระดับที่สูงเป็นประวัติการณ์ก็ตาม