ด่วน! BBL ไฟเขียวลดดอก-ยืดหนี้ให้ JASIF แลก ADVANC เป็นสปอนเซอร์แทนจัสมินฯ
จับตา! JASIF ยีลด์พุ่งหลังแบงก์กรุงเทพประกาศลด “เงินต้นจ่าย” ระหว่างปี 66-70 กว่า 74% พ่วงลดดอกเบี้ยทุกปีจนกว่าชำระหนี้ครบ บนเงื่อนไขผู้ถือหน่วยเปิดทาง ADVANC ขึ้นแท่นเป็นสปอนเซอร์ให้กองทุนแทน JAS
กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF เปิดเผยว่า ตามที่ JASIFได้เข้าทำสัญญากู้ยืมเงินจำนวน 18,160 ล้านบาทกับธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL ฉบับลงวันที่ 19 พฤศจิกายน 2562 เพื่อนำเงินกู้มาซื้อทรัพย์สินเส้นใยแก้วนำแสงเพิ่มเติมในปี 2562 (“สัญญาสินเชื่อ”) นั้นสัญญาสินเชื่อดังกล่าวมีข้อกำหนดห้ามไม่ให้กองทุนรวมแก้ไข แปลงหนี้ หรือยกเลิกสัญญาจัดหาผลประโยชน์จากทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐาน ห้ามกองทุนรวมแก้ไขโครงการจัดการกองทุนรวมเว้นแต่เป็นไปตามที่กฎหมายกำหนดหรือเพื่อให้โครงการจัดการกองทุนรวมเป็นไปตามกฎหมาย ห้ามกองทุนรวมลดทุนเว้นแต่จะได้รับความยินยอมของธนาคารกรุงเทพ รวมถึงกำหนดให้การยกเลิกสัญญาจัดหาผลประโยชน์จากทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐานเป็นเหตุผิดนัดตามสัญญาสินเชื่อ
ในการนี้บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด ในฐานะบริษัทจัดการของ กองทุนรวมอยู่ในระหว่างการดำเนินการประสานงานกับธนาคารกรุงเทพเพื่อขอผ่อนผันข้อกำหนดตามสัญญาสินเชื่อเพื่อให้กองทุนรวมสามารถดำเนินการตามข้อเสนอของบริษัท แอดวานซ์ ไวร์เลส เน็ทเวอร์ค จำกัด (“AWN”) ในการแก้ไขสัญญาจัดหาผลประโยชน์จากทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐาน และแก้ไขโครงการจัดการกองทุนรวมในส่วนที่เกี่ยวข้องหากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหน่วยลงทุนครั้งที่1/2565 มีมติอนุมัติข้อเสนอของ AWN โดยธนาคารกรุงเทพยังอยู่ในระหว่างการพิจารณาเพื่อให้ความยินยอมแก่กองทุนรวมในการดำเนินการข้างต้น โดยบริษัทจัดการจะแจ้งความคืบหน้าให้ผู้ถือหน่วยลงทุนทราบต่อไป
นอกจากนั้นบริษัทจัดการได้หารือกับธนาคารกรุงเทพเพิ่มเติมเพื่อขอให้ธนาคารกรุงเทพปรับลดอัตราดอกเบี้ยและขยายระยะเวลาชำระหนี้ของสัญญาสินเชื่อ เนื่องจากการเปลี่ยนผู้สนับสนุนหลักมาเป็น AWN ซึ่งมีสถานะทางการเงินที่มั่นคงแข็งแกร่งซึ่งส่งให้ความเสี่ยงทางธุรกิจของกองทุนรวมลดลง ตามรายละเอียดที่ปรากฎตามตารางด้านล่างนี้ เพื่อให้เป็นประโยชน์ต่อกองทุนรวมในการลดต้นทุนทางการเงินให้มีความเหมาะสมขึ้น และเพิ่มสภาพคล่องให้ดีขึ้น โดยบริษัทจัดการขอเรียนว่า ธนาคารกรุงเทพได้แจ้งให้บริษัทจัดการทราบเมื่อวันที่ 14 กันยายน 2565 ว่าธนาคารกรุงเทพเห็นชอบในหลักการที่จะขยายระยะเวลาชำระหนี้และปรับลดอัตราดอกเบี้ย โดยมีรายละเอียดดังนี้
สำหรับการชำระคืนเงินต้นเดิมใน ปี 2566 อยู่ที่ 1,150 ล้านบาท ต่อมาปี 2567 อยู่ที่ 1,300 ล้านบาท ขณะที่ปี 2568 อยู่ที่ 1,450 ล้านบาท ส่วนปี 2569 อยู่ที่ 1550 ล้านบาท และปี 2570 อยู่ที่ 1,700 ล้านบาท สำหรับอัตราดอกเบี้ยปี 2566-2570 อัตราดอกเบี้ย MLR โดยต้องจ่ายคืนเงินต้น 7.15 พันล้านบาท โดยคิดจากอัตราดอกเบี้ยเดิม 5.25% ภาระดอกเบี้ยต่อปี 953.40 ล้านบาท
ส่วนการชำระคืนเงินต้นเงื่อนไขใหม่ ในปี 2566 อยู่ที่ 50 ล้านบาท ปี 2567 อยู่ที่ 200 ล้านบาท ปี 2568 อยู่ที่ 250 ล้านบาท ส่วนปี 2569 อยู่ที่ 600 ล้านบาท และปี 2570 อยู่ที่ 750 ล้านบาท โดยคิดอัตราดอกเบี้ยเงื่อนไขใหม่ปี 66-70 คิดอัตราดอกเบี้ย MLR -0.50% โดยต้องจ่ายคืนเงินต้นในเงื่อนใหม่ 1.85 พันล้าน หรือชำระน้อยลงราว 74.13% สำหรับช่วง 5 ปีแรกที่ ADVANC เข้ามาเป็นสปอนเซอร์ของกองทุนฯแทน JAS โดยคิดจากอัตราดอกเบี้ยใหม่ 4.75% ภาระดอกเบี้ยต่อปี 862.60 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ภาระดอกเบี้ยลดลงปีละ 90.80 ล้านบาท
โดยจากเดิมที่ต้องชำระคืนเงินต้นในปี 2566-2570 อยู่ 7.15 พันล้านบาท แต่ถ้าหากชำระเงินต้นในเงื่อนไขจะชำเพียง 1.85 พันล้านบาท ก็เท่ากับว่าจะทำให้เงินต้นที่ไม่ต้องชำระหายไปราว 5.3 พันล้านบาท
หมายเหตุ ธนาคารกรุงเทพคิดค่าธรรมเนียมในการขยายระยะเวลาชำระหนี้ (extension fee) เป็นจำนวน 0.5% บนภาระหนี้คงเหลือ ณ วันที่ 30 ธันวาคม 2565
ทั้งนี้ธนาคารกรุงเทพกำหนดให้การขยายระยะเวลาชำระหนี้และปรับลดอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวจะมีผลบังคับต่อเมื่อ กองทุนรวมได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขดังต่อไปนี้ครบถ้วนแล้ว อาทิ กองทุนรวมได้นำส่งเอกสารดังต่อไปนี้ให้ธนาคารกรุงเทพ โดยเอกสารอยู่ในรูปแบบและเนื้อหาที่ธนาคารยอมรับ และมีเอกสารหลักฐานเพื่อแสดงว่ากองทุนรวมได้รับมติอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหน่วยลงทุนในเรื่องดังต่อไปนี้
มติอนุมัติในการซื้อขายหน่วยลงทุนที่ถือโดยบริษัท จัสมิน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ JAS ในฐานะผู้ขาย และ AWN ในฐานะผู้ซื้อ มติอนุมัติในการเจรจาตกลงแก้ไขรายละเอียดของสัญญาต่างๆ กับคู่สัญญาทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยเงื่อนไขต้องเป็นที่ยอมรับได้ของธนาคาร ซึ่งรวมถึงแต่ไม่จำกัดเพียง
การแก้ไขสัญญาเช่าหลัก ซึ่งระยะเวลาเช่าต้องไม่ครบกำหนดก่อน 31ธันวาคม 2580
การชำระค่าเช่าล่วงหน้าโดย TTTBB เป็นจำนวน 3,000 ล้านบาท โดยชำระงวดแรกเป็นจำนวน 1,000 ล้านบาท ในวันที่ลงนามในสัญญาแก้ไขสัญญาเช่าหลัก (“Effective Date”)และชำระงวดถัดไปงวดละไม่ต่ำกว่า 1,000 ล้านบาท ในวันที่ครบกำหนด 1 ปี และ 2 ปีนับจาก Effective Date ตามลำดับ โดยต้องชำระให้เสร็จสิ้นภายใน 31 ธันวาคม 2568
นอกจากนี้ต้องมีเอกสารหลักฐาน เพื่อแสดงว่าการเข้าซื้อหุ้นในบริษัท ทริปเปิลที บรอดแบนด์ จำกัด (มหาชน)(“TTTBB”) และหน่วยลงทุนในกองทุนรวม โดย AWN เสร็จสมบูรณ์
พร้อมกับมีเอกสารหลักฐานเพื่อแสดงว่าบริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด หรือ ADVANC และ AWN ดำรงสัดส่วนการถือหุ้นทั้งทางตรงและ/หรือทางอ้อมใน TTTBB รวมกันไม่ต่ำกว่า 99.87% และมีอำนาจควบคุมใน TTTBB
ขณะเดียวกันเอกสารที่อื่นใดที่เกี่ยวข้องกับการซื้อขายหุ้นและหน่วยลงทุนดังกล่าว ตามที่ธนาคารร้องขอ ไม่มีเหตุผิดนัดเกิดขึ้นภายใต้สัญญาสินเชื่อ และยังไม่ได้รับการแก้ไข และไม่มี Material Adverse Change เกิดขึ้นภายใต้สัญญาสินเชื่อ
นอกจากนี้กองทุนรวมตกลงปฏิบัติตามเงื่อนไขเพิ่มเติมดังต่อไปนี้ตลอดระยะเวลาของสัญญาสินเชื่อดังนี้ ดำเนินการให้ TTTBB คงเงื่อนไขการถือหุ้นใน TTTBB โดย ADVANC และ AWN ทั้งทางตรงและ/หรือทางอ้อมใน TTTBB รวมกันไม่ต่ำกว่า 99.87% และมีอำนาจควบคุมใน TTTBB และดำเนินการให้ TTTBB ชำระค่าเช่าล่วงหน้าตามเงื่อนไขภายใต้สัญญาเช่าหลักที่แก้ไข
ทั้งจากการปรับการชำระเงินต้นในเงื่อนไขใหม่จะส่งให้ JASIF มีกระแสเงินสดเพิ่มขึ้นในช่วงระหว่างช่วงการดำเนินงานในปี 2566-2570 และจะทำให้อัตราดอกเบี้ยการชำระหนี้ลดลง ทั้งนี้เป็นที่จับตาว่าหากไม่มีภาระการจ่ายหนี้จำนวนมาก คาดว่าจะทำให้บริษัทมีอัตราการจ่ายเงินปันผล(ยีลด์)สูงในช่วงของปีดังกล่าว อย่างไรก็ตามนักลงทุนต้องจับการประเมินจากวิเคราะห์อีกครั้งว่าจะออกมาในรูปแบบใด