“เมย์แบงก์” กลับลำแนะ “ถือ” JASIF สะท้อนยีลด์ปี 66 ทะลุ 10%
“เมย์แบงก์” ปรับคำแนะนำ จาก “ขาย” เป็น “ถือ” JASIF สะท้อนยีลด์ปี 66 สูง 10.4% หาก BBL ลดอัตราดอกเบี้ยจาก MLR เป็น MLR–0.5% ก็จะทำให้การชำระคืนเงินต้น-ดอกเบี้ยลดลง
บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ว่า เมื่อวันที่ 14 ก.ย.65 ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL เจ้าหนี้ของ กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต จัสมิน หรือ JASIF ได้อนุมัติในหลักการที่จะมีการยืดระยะเวลาชำระหนี้ของ JASIF ออกไปอีกสองปี (ชำระงวดสุดท้ายในปี 75 จากเดิมปี 2573) และลดอัตราดอกเบี้ยจาก MLR เป็น MLR–0.5% เงื่อนไขที่เอื้ออำนวยมากขึ้นจะมีผลเมื่อ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC
โดยการดำเนินการเข้าซื้อกิจการ TTTBB และ JASIF และการแก้ไขสัญญาเช่าเสร็จสิ้นแล้ว ทั้งนี้ ADVANC จะต้องรักษาสัดส่วนการถือหุ้น 99.9% ใน TTTBB ตลอดอายุเงินกู้
สำหรับทางฝ่ายวิจัยได้ปรับเพิ่มประมาณการปี 66 ขึ้น 2% และปี 67 ขึ้น 1% เนื่องจากได้ปรับลดอัตราดอกเบี้ยจากประมาณ 6% เป็นประมาณ 5% (MLR – 0.5% ปัจจุบันเท่ากับ 4.75%) ซึ่งระยะเวลาชำระหนี้ที่ยาวนานขึ้นทำให้ JASIF สามารถลดภาระการชำระเงินต้นรายปีได้ 1-1.2 พันล้านบาท ในช่วง ปี 66-70 ทำให้มีการเพิ่มการคาดการณ์ DPS ขึ้น 20-22% ในช่วงเวลาเดียวกัน ตอนนี้ทางฝ่ายวิจัยคาดการณ์ DPS ที่ 0.82 บาท สำหรับปี 66-68 (ผลตอบแทน 10.4%), 0.70 บาท สำหรับปี 69-70 (ผลตอบแทน 8.9%) และ 0.57 บาทในปี 71 (ผลตอบแทน 7.3%)
ทั้งนี้เพิ่มคำแนะนำ JASIF จาก “ขาย” เป็น “ถือ” เนื่องจากให้ผลตอบแทนรวมที่อาจเกิดขึ้นที่ 0.8% (ดาวน์ไซด์ 9.6% จากราคาตลาด เมื่อเทียบกับราคาเป้าหมายที่ 7.10 บาท และอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล 10.4% ในปี 66 โดยราคาเป้าหมายอิง DCF ยังคงอยู่ที่ 7.10 บาท