สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 16 ก.ย. 2565

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 16 ก.ย. 2565


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลดลงในวันศุกร์ (16 ก.ย.) แตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน เนื่องจากการเตือนของบริษัทเฟดเอ็กซ์เกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก ทำให้นักลงทุนเทขายหุ้นออกมาเพื่อลดความเสี่ยง

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,822.42 จุด ลดลง 139.40 จุด หรือ -0.45%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,873.33 จุด ลดลง 28.02 จุด หรือ -0.72% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,448.40 จุด ลดลง 103.95 จุด หรือ -0.90%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลง 1.6% ในวันศุกร์ (16 ก.ย.) เนื่องจากการเตือนเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และธนาคารโลก และการคาดการณ์เกี่ยวกับการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์หน้าได้ส่งผลกระทบต่อบรรยากาศการซื้อขาย

ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 408.24 จุด ลดลง 6.54 จุด หรือ -1.58% และปรับตัวลง 2.9% ในสัปดาห์นี้รุนแรงที่สุดในรอบ 3 เดือน

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,077.30 จุด ลดลง 80.54 จุด หรือ -1.31%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,741.26 จุด ลดลง 215.40 จุด หรือ -1.66% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,236.68 จุด ลดลง 45.39 จุด หรือ -0.62%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวลงในวันศุกร์ (16 ก.ย.) โดยได้รับผลกระทบจากการเทขายหุ้นเพื่อลดความเสี่ยงในตลาดทั่วโลก ขณะที่การเปิดเผยข้อมูลยอดค้าปลีกของอังกฤษที่อ่อนแอเกินคาดได้ตอกย้ำความวิตกเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอยในประเทศ

ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,236.68 จุด ลดลง 45.39 จุด หรือ -0.62%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเล็กน้อยในวันศุกร์ (16 ก.ย.) แต่ยังคงลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน โดยถูกกดดันจากความวิตกที่ว่าการคุมเข้มนโยบายการเงินของธนาคารกลางต่าง ๆ จะทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง และจะส่งผลกระทบต่อความต้องการใช้น้ำมัน

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 1 เซนต์ หรือ 0.01% ปิดที่ 85.11 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ลดลง 1.9% ในรอบสัปดาห์นี้ และลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 51 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 91.35 ดอลลาร์/บาร์เรล แต่ลดลง 1.6% ในรอบสัปดาห์นี้ และลดลงเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นในวันศุกร์ (16 ก.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยรายงานความเชื่อมั่นผู้บริโภคบ่งชี้ว่า การคาดการณ์เงินเฟ้อลดลง นอกจากนี้ การปรับตัวลงของตลาดหุ้นสหรัฐก็ได้กระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อสัญญาทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยด้วย แต่สัญญาทองคำยังคงปิดตลาดสัปดาห์นี้ร่วงลงเกือบ 3% หลังจากที่ปิดตลาดต่ำสุดในรอบกว่า 2 ปีเมื่อวันพฤหัสบดี

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 6.2 ดอลลาร์ หรือ 0.37% ปิดที่ 1,683.5 ดอลลาร์/ออนซ์ แต่ร่วงลง 2.6% ในรอบสัปดาห์นี้

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 11.2 เซนต์ หรือ 0.58% ปิดที่ 19.381 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. ลดลง 2.7 ดอลลาร์ หรือ 0.3% ปิดที่ 901 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ร่วงลง 33.40 ดอลลาร์ หรือ 1.6% ปิดที่ 2,112.70 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (16 ก.ย.) ขณะที่นักลงทุนรอคอยผลการประชุมกำหนดนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในวันที่ 20-21 ก.ย.นี้ ซึ่งตลาดคาดการณ์ว่า เฟดอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% – 1% เพื่อสกัดเงินเฟ้อ

ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.02% แตะที่ระดับ 109.7640

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.3284 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3224 ดอลลาร์แคนาดา และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9648 ฟรังก์ จากระดับ 0.9607 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 142.98 เยน จากระดับ 143.47 เยน

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 1.0006 ดอลลาร์ จากระดับ 0.9996 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.1411 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1467 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าสู่ระดับ 0.6717 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6703 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button