RT วิ่งต่อ 3% นิวไฮรอบเกือบ 4 เดือน หลังแบ็กล็อกหมื่นลบ. ลุ้นครึ่งปีหลังฟื้นตัว

RT วิ่งต่อ 3% ราคาแตะ 1.77 บ. นิวไฮรอบเกือบ 4 เดือน หลังคว้างานก่อสร้างอุโมงค์รถไฟ ช่วงงาว-เชียงราย 2.31 พันลบ. ดันแบ็กล็อกทะลุ 9.3 พันลบ. ลุ้นไตรมาส 4 ฟื้นตัว ดันผลงานครึ่งปีหลังดีกว่าครึ่งปีแรก


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (22 ก.ย.65) ราคาหุ้น บริษัท ไร้ท์ทันเน็ลลิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ RT ล่าสุด ณ เวลา 10:22 อยู่ที่ระดับ 1.77 บาท บวก 0.05 บาท หรือ 2.91% สูงสุดที่ระดับ 1.81 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 1.69 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 29.75 ล้านบาท ทั้งนี้ราคาหุ้น RT ปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบเกือบ 4 เดือน นับตั้งแต่ราคาหุ้นอยู่ที่ระดับ 1.78 บาท เมื่อวันที่ 30 พ.ค.65

โดยนายชวลิต ถนอมถิ่น ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร RT เปิดเผยว่า บริษัทรับงานก่อสร้างโครงการรถไฟทางคู่ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ สัญญาที่ 2 ในส่วนงานก่อสร้างอุโมงค์รถไฟ ช่วงงาว-เชียงราย มูลค่า 2,307.99 ล้านบาท (รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ซึ่งบริษัทเป็นผู้รับเหมาช่วงจาก กิจการร่วมค้า ซีเคเอสที-ดีซี 2 ประกอบด้วย บริษัท ช.การช่าง จำกัด (มหาชน) หรือ CK, บริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่งแอนด์คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STEC และ บริษัท บุรีรัมย์พนาสิทธิ์ จำกัด

สำหรับงานดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งในโครงการก่อสร้างทางรถไฟ สายเด่นชัย-เชียงราย-เชียงของ โดยการรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี ระยะทางทั้งหมด 323 กิโลเมตร ซึ่งมีการลงนามสัญญาจ้างก่อสร้าง 3 สัญญา ประกอบด้วย สัญญาที่ 1 ช่วงเด่นชัย-งาว, สัญญาที่ 2 ช่วงงาว-เชียงราย และ สัญญาที่ 3 เชียงราย-เชียงของ

นอกจากนี้ บริษัทมีความพร้อมในการดำเนินงานเต็มศักยภาพ ทั้งด้านการจัดการแรงงานก่อสร้าง การบริหารต้นทุนที่ดี อีกทั้งมีการเข้าติดตามงานอย่างต่อเนื่อง เพื่อเร่งก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามกำหนดเวลา ประกอบกับการเข้ารับงานทั้งภาครัฐอย่างต่อเนื่อง โดยการเข้ารับงานในโครงการดังกล่าวส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทมีมูลค่างานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog)  จำนวน 9,375 ล้านบาท ซึ่งเกินกว่าเป้าหมายที่วางไว้จะมี Backlog จำนวน 8,500 ล้านบาท

ก่อนหน้านี้ นายชวลิต กล่าวว่า บริษัทยังมีงานที่อยู่ระหว่างประมูลงานอีกหลายโครงการ เช่น ก่อสร้างเขื่อนและระบบชลประทาน รวมถึงงานซ่อมโรงไฟฟ้า คาดว่าจะมีการประกาศผลภายในปีนี้ นอกจากนี้บริษัทยังอยู่ระหว่างการติดตามงานโครงการโรงไฟฟ้าใน สปป.ลาว คาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในปีนี้  อีกทั้งยังอยู่ระหว่างติดตามงานอุโมงค์ถนนในภาคใต้  คาดจะออกประกาศร่างเอกสารประกวดราคา, ขอบเขตของงาน (TOR) ในปลายปีนี้ และน่าจะมีการประมูลงานในช่วงต้นปี 2566

ส่วนผลประกอบการในช่วงไตรมาส 3/2565 คาดว่าจะทรงตัว เนื่องจากงานโครงการใหม่ ๆ จะเริ่มดำเนินการในช่วงไตรมาส 4/2565 ก็น่าจะส่งผลให้ผลประกอบการในไตรมาส 4/2565 เริ่มดีขึ้น ดังนั้นภาพรวมผลประกอบการในช่วงครึ่งปีหลังน่าจะปรับตัวดีขึ้นจากช่วงครึ่งปีแรก หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย

Back to top button