ยกเลิก “พ.ร.ก.ฉุกเฉิน-ยุบ ศบค.” มีผล 1 ต.ค.นี้
“หมออุดม” เผย ศบค.มีมติยกเลิก “พ.ร.ก.ฉุกเฉิน” เปลี่ยนมาใช้ พ.ร.บ.โรคติดต่อแทน รวมถึงยุบ ศบค. หลังเปลี่ยนผ่านโควิด-19 สู่โรคเฝ้าระวัง เริ่มมีผลตั้งแต่ 1 ต.ค.65
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (23 กันยายน 2565) ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.อุดม คชินทร ที่ปรึกษาคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 (ศบค.) ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าร่วมประชุม ศบค. ว่า เวลานี้ตัวเลขผู้ป่วยโควิด-19 ในระดับต้องเข้ารักษาตัวในโรงพยาบาลประมาณ 1,000 คน
ขณะที่การรายงานผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 จากการตรวจ ATK ในระบบ จำนวน 13,000-14,000 คน และ ATK นอกระบบ 2-3 เท่า รวมแล้วมีผู้ติดเชื้อเฉลี่ย 30,000-40,000 คนต่อวัน แต่ส่วนใหญ่ไม่รุนแรงจึงเปลี่ยนผ่านจากโรคติดต่อร้ายแรงเป็นโรคเฝ้าระวัง ซึ่งยังไม่ถึงระดับเป็นโรคประจำถิ่น
นพ.อุดมกล่าวว่า สำหรับแผนเปลี่ยนผ่าน หลังวันที่ 1 ตุลาคม 2565 เป็นต้นไป ไม่ต้องตรวจ ATK ไม่ดูผลการฉีดวัคซีน แต่ประชาชนต้องดูแลตัวเอง คาดว่าเราจะต้องอยู่กับโควิด-19 ราว 1 ปี จึงจะกลายเป็นโรคประจำถิ่น ในระดับเดียวกันกับโรคไข้หวัด โดยปัจจุบันการฉีดวัคซีนอยู่ในระดับ 3 ไม่เจ็บป่วยรุนแรง ไม่เสียชีวิต การฉีดวัคซีนจึงยังเป็นประโยชน์ อย่างไรก็ได้ ยังมีผู้ได้รับวัคซีนเข็มที่ 3 เพียง 30-40 % ควรเร่งการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นให้ได้ 70% ขึ้นไป
โดยขณะนี้ได้เซตระบบไว้ทั้งหมดแล้วในการมอบหมายกระทรวงต่าง ๆ ผลจากการประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินและคำสั่ง ศบค. แต่นับตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 65 เราจะไม่ต่อ พ.ร.ก.ฉุกเฉินแล้ว ศบค.ก็จะหมดไปโดยอัตโนมัติ
“ถ้าโควิด-19 กลับมา ครม.ก็จะมอบหมายหน้าที่กระทรวงต่าง ๆ แทน ศบค.ผ่านมติ ครม.ในระยะยาวอยู่ในขั้นตอนเสนอร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) โรคติดต่อฉบับใหม่เข้าสู่การพิจารณาสภา ซึ่งมีโครงสร้างบางส่วนเหมือน ศบค. อยู่ในนั้น ไม่ต้องประกาศ พ.ร.ก.ฉุกเฉินอีก เราเคยเสนอท่านนายกฯ พ.ร.บ.แก้ไขโรคติดต่อ ประกาศเป็น พ.ร.ก.โรคติดต่อฉบับแก้ไขใช้ไปก่อนได้” นพ.อุดม กล่าว