ไร้สุญญากาศ! สธ.พร้อมดูแล “โควิด” หลัง ศบค.ไฟเขียวยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ 1 ต.ค.นี้

รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข มั่นใจสามารถรับไม้ต่อจาก ศบค.ในการดูแลสถานการณ์โควิด-19 หลังมีมติยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ โดยมีผล 1 ตุลาคมนี้ แม้ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯ ฉบับแก้ไขเพิ่มเติมยังดำเนินการไม่แล้วเสร็จ แต่สามารถใช้กฎหมายที่มีอยู่ได้


นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า กรณีที่ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดโควิด-19 หรือ ศบค.ชุดใหญ่ มีมติยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ แล้ว ก็ถือว่าสิ้นสุดการบังคับใช้ ที่ผ่านมาพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ มีประโยชน์ในการควบคุมโรค การนำกฎหมายพิเศษมาใช้ในการดูแลโรคโควิด-19  เนื่องจากกฎหมายบางฉบับที่มีอยู่ก่อนหน้านี้อาจไม่ครอบคลุม เช่น การกำหนดเวลาการเดินทางในช่วงที่สถานการณ์รุนแรงตึงเครียดก็มีความจำเป็น ซึ่งในช่วงหลังจำเป็นน้อยลงจนอาจจะมีการพูดถึงเรื่องประเด็นทางการเมือง

ส่วน พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อที่จะมีการปรับแก้นั้น นายสาธิต ระบุว่า ยังคงอยู่ระหว่างการพิจารณา ซึ่งอยู่ในขั้นตอนของการพิจารณาคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่จะมีรายละเอียดในแง่ข้อกฎหมายของพ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อ ซึ่งยังไม่เข้าสู่ขั้นตอนของสภาผู้แทนราษฎร โดยขณะนี้สามารถใช้พ.ร.บ.ควบคุมโรคติดต่อที่ยังไม่ได้แก้ไขไปก่อนได้ เพราะในส่วนท้องถิ่นและจังหวัดต่างๆ มีประสบการณ์ ประกอบกับข้อมูลภูมิคุ้มกันรายบุคคลของแต่ละจังหวัดอยู่ในเปอร์เซนต์ที่สูง ทั้งจากการฉีดวัคซีนและการติดเชื้อ แม้ว่าจะมีผู้ติดเชื้อต่อวันเป็นหลักหมื่น แต่มั่นใจว่าจะค่อยๆ ลดลง และแม้อาจจะเพิ่มขึ้นก็ไม่ถึงกับเป็นอันตราย ถ้าประเมินโดยภาพรวม

สำหรับการป้องกันโรคของกระทรวงสาธารณสุข นายสาธิต มั่นใจว่าสามารถดูแลได้เพียงพอ มีศักยภาพเตียงที่รองรับได้ จำนวนผู้เสียชีวิตที่ลดลง ภูมิคุ้มกันหมู่ที่เพิ่มขึ้น ซึ่งหลังจากนี้จะเดินหน้าเปิดประเทศและเศรษฐกิจได้ดีขึ้น โดยจะเห็นว่าญี่ปุ่นเตรียมเปิดประเทศในวันที่ 11 ตุลาคมนี้แล้ว

ทั้งนี้ หากในอนาคตหากเกิดผู้ติดเชื้อจำนวนสูงขึ้นอย่างก้าวกระโดด กระทรวงสาธารณสุขได้เตรียมแผนรับมือ โดยมีแผนสีเขียว สีเหลือง หากประเมินว่ามีผู้ติดเชื้อเข้ารับการรักษามากขึ้น เสียชีวิตตามเกณฑ์ที่แบ่งเป็นแท่งสี จะมีมาตรการกำหนดยุทธศาสตร์ในแต่ละประเภท หากเกิดเหตุการณ์จะสามารถใช้แผนที่เตรียมไว้รองรับได้

ขณะที่ความจำเป็นของการฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้นเพื่อให้มีภูมิคุ้มกันตัวเอง โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยง นายสาธิต เปิดเผยว่า ที่ประชุมศบค. ยังคงเน้นให้ประชาชนเข้าถึงวัคซีนโดยง่าย แต่การกระตุ้นเข็มที่ 6 อาจจะไปไม่ถึงขนาดนั้น เพราะต้องดูช่วงเวลาของการรับวัคซีน แต่หากอยู่ในช่วงของเข็มที่ 4 ต้องฉีดเข็มที่ 5 สำหรับบุคคลทั่วไป อยากให้ปรึกษาแพทย์ก่อนรับวัคซีน

อย่างไรก็ตามมีรายงานว่าในการประชุมครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา รมว.กลาโหม ได้เข้าร่วมประชุมผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเร้นท์ โดยติดตามการประชุมตลอดเวลาเปิดกล้องอยู่แต่ไม่ได้ให้ความเห็นอะไร

Back to top button