รอด! ศาลฎีกาฯ พิพากษายืน “อีซูซุ” ชนะคดีภาษีนำเข้า 1.8 พันลบ.
ศาลฎีกาฯ พิพากษายืนให้ “อีซูซุ” ชนะคดีฟ้อง "กรมศุลฯ-สรรพากร" ไม่ต้องจ่ายภาษีนำเข้า 1.8 พันลบ.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากร พิพากษายืนให้ บริษัท อีซูซุมอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด ไม่ต้องเสียอากรในการนำเข้าชุดเกียร์รถยนต์ตามความตกลงพื้นฐานว่าด้วยโครงการความร่วมมือทางอุตสาหกรรมของอาเซียน (AICO) มูลค่า 1,800 ล้านบาท
โดยองค์คณะผู้พิพากษาศาลฎีกาฯ ได้อ่านคำพากษาโดยวิธีถ่ายทอดภาพและเสียงผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์ไปยังศาลภาษีอากรกลางในคดีที่ บริษัท อีซูซุมอเตอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เป็นโจทก์ ยื่นฟ้องกรมศุลกากร และกรมสรรพากร ร่วมกันเป็นจำเลยรวม 4 คดี มีทุนทรัพย์รวมกว่า 1,800 ล้านบาท
สำหรับคดีนี้โจทก์ฟ้องว่า ระหว่างปี 42-45 โจทก์นำเข้าเข้าชุดเกียร์รถยนต์จากประเทศฟิลิปปินส์ โดยใช้สิทธิลดอัตราอากรเหลือ 5% ตามประกาศกระทรวงการคลังที่ ศก.17/2541 (ครอ.1) และตามความตกลงพื้นฐานว่าด้วยโครงการความร่วมมือทางอุตสาหกรรมของอาเซียน (AICO) แต่เจ้าพนักงานประเมินและคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์เห็นว่า โจทก์นำชุดเกียร์รถยนต์ไปผลิตหรือประกอบเป็นรถบรรทุกเล็ก ไม่ตรงกับรุ่นของรถยนต์ตามที่ระไว้ในใบรับรองผลิตภัณฑ์ จึงไม่ได้รับสิทธิลดอัตราอากรตามโครงการ AICO และต้องเสียอัตราอากร 42% โจทก์ขอให้เพิกถอนการประเมินของเจ้าพนักงานประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์ จำเลยทั้งสองให้การว่า การประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ชอบด้วยกฎหมายแล้ว ศาลภาษีอากรกลางพิพากษาให้เพิกถอนการประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ ศาลอุทธรณ์คดีชำนัญพิเศษพิพากษายืน โจทก์และจำเลยทั้งสองฎีกาโดยได้รับอนุญาตจากศาลฎีกา
ทั้งนี้ศาลฎีกาแผนกคดีภาษีอากร เห็นว่า ผลิตภัณฑ์ของโจทก์ที่ได้รับสิทธิประโยชน์ตามโครงการ AICO ตามใบรับรองผลิตภัณฑ์ คือ ชุดเกียร์รถยนต์ ซึ่งหมายถึง ชื่อของชุดเกียร์ หมายเลขของชุดเกียร์ ยี่ห้อของชุดเกียร์ และรุ่นของชุดเกียร์ ส่วนรุ่นของรถยนต์ที่ระบุไว้ในใบรับรองผลิตภัณฑ์เป็นเพียงรหัสรุ่นของรถยนต์ที่จะนำชุดกียร์ไปประกอบ ซึ่งไม่ใช่สาระสำคัญในการได้รับสิทธิลดอัตราอากรตามประกาศกระทรวงการคลังที่ ศก.17/2541 (ครอ.1) โจทก์จึงได้รับสิทธิลดอัตราอากรเหลือ 5% ภายใต้โครงการ AICO และประกาศกระทรวงการคลังดังกล่าว
ส่วนที่จำเลยทั้งสองฎีกาว่า โจทก์นำเข้าชุดเกียร์น้อยกว่าที่ได้รับอนุมัติ บริษัท อีซูซุ เอ็นยิ่น แมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด ไม่ส่งออกเครื่องยนต์ตามข้อตกลงที่ได้รับอนุมัติให้เข้าร่วมโครงการ AICO และโจทก์ขาดคุณสมบัติเข้าร่วมโครงการ AICO เป็นการเพิ่มเติมประเด็นอื่นขึ้นใหม่ในชั้นศาล ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่เพิ่งยกขึ้นมาใหม่นอกเหนือจากที่เจ้าพนักงานประเมินได้ประเมินไว้เพื่อให้โจทก็ต้องรับผิด เท่ากับเป็นการขยายระยะเวลาการประเมินและประเด็นการประเมินโดยไม่มีที่สิ้นสุดและไม่แน่นอน ไม่เป็นธรรมกับผู้ต้องเสียภาษีอากรและไม่ชอบด้วยหลักการประเมินและการอุทธรณ์การประเมิน ศาลไม่รับวินิจฉัย เมื่ออากรขาเข้าลดลงภาษีมูลค่าเพิ่มที่โจทก์ต้องรับผิดตามการประเมินก็ต้องลดลงไปโดยผลของกฎหมายด้วย โจทก์จึงไม่ต้องรับผิดชำระค่าภาษีอากรตามการประเมินและคำวินิจฉัยอุทธรณ์ พิพากษายืน