จับตา! GPSC วิ่งรับปิดดีล “วินด์ฟาร์ม” ไต้หวัน 595 MW พ่วงโบรกชูเป้า 79 บ.
ลุ้น GPSC ราคาหุ้นวิ่งรับปิดดีลโครงการการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมนอกชายฝั่งในไต้หวัน กำลังผลิต 595 เมกะวัตต์ กำหนด COD ไตรมาส 1/67 ด้านโบรกชูราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 อยู่ที่ 79 บาท
บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC เปิดเผยว่า ตามที่บริษัทได้แจ้งเรื่องการลงทุนโครงการการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมนอกชายฝั่งในไต้หวัน เป็นเงินลงทุนรวมประมาณ 500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (หรือประมาณ 1.8 หมื่นล้านบาท โดยคิดจากอัตราแลกเปลี่ยน 1 ดอลลาร์สหรัฐ เท่ากับ 37 บาท) เมื่อวันที่ 14 ก.ค.64 ที่ผ่านมา ล่าสุดบริษัท โกลบอล รีนิวเอเบิล ซินเนอร์ยี่ จำกัด (เป็นบริษัทย่อย) ได้ดำเนินการตามเงื่อนไขบังคับก่อน (Conditions precedent) ของสัญญาซื้อขายหุ้นเสร็จสิ้นแล้ว เมื่อวันที่ 26 ก.ย.65 และได้เข้าถือหุ้น 25% ในบริษัท CI Changfang Limited และบริษัท CI Xidao Limited เป็นที่เรียบร้อยแล้ว
ทั้งนี้บริษัทตั้งเป้าหมายเป็นผู้พัฒนาโครงการการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมนอกชายฝั่ง (Offshore wind) ในไต้หวัน โดยมีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 595 เมกะวัตต์ ประกอบด้วยโครงการ Changfang และโครงการ Xidao ซึ่งมีกาลังการผลิตไฟฟ้า จำนวน 547 เมกะวัตต์ และ 48 เมกะวัตต์ ตามลาดับ โดยโครงการดังกล่าวอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง และจะทยอยเปิดดำเนินการจนครบตามกำลังการผลิตไฟฟ้า ภายในไตรมาสที่ 1/67
สำหรับการเข้าร่วมลงทุนในครั้งนี้ GPSC จะมีกำลังการผลิตคิดเป็น 149 เมกะวัตต์ตามสัดส่วนการถือหุ้น 25% ส่งผลให้บริษัทมีกำลังการผลิตพลังงานหมุนเวียนเพิ่มขึ้นเป็น 2,294 เมกะวัตต์ หรือคิดเป็นสัดส่วน 34% ของกำลังการผลิตทั้งหมด 6,761 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในกลยุทธ์การขับเคลื่อนธุรกิจ และกระจายแหล่งผลิตพลังงานทางเลือกให้มีความหลากหลาย พร้อมกันนี้ยังเป็นการเพิ่มพูนประสบการณ์การพัฒนาโครงการพลังงานลมนอกชายฝั่งในต่างประเทศ ที่จะสามารถสร้างโอกาสและขยายการลงทุนตามกลยุทธ์ของธุรกิจในการเติบโตด้านพลังงานทดแทนในกลุ่มตลาดเป้าหมายต่อไป
โดยไต้หวันถือเป็นหนึ่งพื้นที่ที่มีศักยภาพ และมีความก้าวหน้าในการพัฒนาเทคโนโลยีพลังงานสะอาดชั้นนำของโลก รวมทั้งยังได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลในการส่งเสริมการลงทุนพลังงานสะอาดในทุกประเภท จะเห็นจากอัตราการใช้พลังงานทางเลือกที่มีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้กลุ่ม GPSC ตัดสินใจเข้าลงทุนในโครงการดังกล่าว และพร้อมที่จะขยายการลงทุนต่อเนื่องพร้อมทั้งยังเป็นการเปิดโอกาสใหม่ๆ ที่จะเข้าไปลงทุนด้านเทคโนโลยีแห่งอนาคตได้อีกทางหนึ่ง
สำหรับการเข้าร่วมทุนครั้งนี้ ถือเป็นโครงการแรกที่บริษัทร่วมลงทุนในโครงการพลังงานลมนอกชายฝั่งกับ CIP ซึ่งมีประสบการณ์สูงในด้านการพัฒนาพลังงานลมนอกชายฝั่งเปิดโอกาสให้บริษัทได้ขยายความเชี่ยวชาญในด้านองค์ความรู้การพัฒนาพลังงานลมนอกชายฝั่ง เนื่องจากต้องอาศัยเทคโนโลยีในการก่อสร้างและพัฒนาโครงการที่ต้องการความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน รวมถึงนวัตกรรมกังหันลมที่ต้องใช้เทคโนโลยีชั้นสูง เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพแวดล้อมของโครงการ โดยยังสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าและป้อนเข้าสู่ระบบจ่ายไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่องและปลอดภัย
อย่างไรก็ดีหลังจากการซื้อขายหุ้น CI-II และ C-III ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ และเป็นผู้ดำเนินการหลักของโครงการ CFXD
อนึ่งเมื่อวานนี้ (26 ก.ย. 65) GPSC ราคาหุ้นปิดที่ระดับ 67.55 บาท ราคาไม่เปลี่ยนแปลง สูงสุดที่ระดับ 68.25 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 67.50 บาท มูลค่าการซื้อขาย 314.64 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามก่อนหน้า บล.เคจีไอ ระบุในบทวิเคราะห์ (25 ส.ค. 65) คาดว่ากําไรหลักในไตรมาส 3/65 จะสูงที่สุดในรอบปีนี้ จาก 1) เป็นช่วง peak ของโรงไฟฟ้าพลังน้ำ 2) ค่า Ft เฉลี่ยเพิ่มเป็น 0.4766 บาท/kWh (+0.3068) และ 3) ผลการดําเนินงานของ Avaada แข็งแกร่งขึ้น แม้จะเผชิญอุปสรรคจากการที่ราคาก๊าซดีดตัวขึ้นเป็นประมาณ 500-510 บาท/mmbtu และราคาถ่านหินขยับสูงขึ้น นอกจากนี้บริษัทยังคาดว่าจะได้รับค่าสินไหมจากบริษัทประกันส่วนที่เหลืออีก 20-30 ล้านดอลลาร์ฯ กรณี GE เฟส 5 ในไตรมาส 4/65 ในขณะที่ค่าสินไหมประกันกรณี Gheco-One จะเป็นของปี 66
ดังนั้นยังแนะนํา “ซื้อ” GPSC ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2566 ที่ 79 บาท โดยเชื่อว่าส่วนแบ่งกําไรที่เพิ่มขึ้นและการเติบโต Avaada จะทําให้นักลงทุนมั่นใจกับการเติบโตของ GPSC