“ก.ท่องเที่ยวฯ” เซ็น “กรุงไทย” เก็บค่าธรรมเนียม “ทัวร์ริสต์” ต่างชาติ จ่อชง ครม. ต.ค.นี้

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา MOU “ธนาคารกรุงไทย” ดำเนินการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยวภายในประเทศของนักท่องเที่ยวต่างชาติ เตรียมส่งเรื่องเข้าครม. ต.ค.นี้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (27 กันยายน 2565) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ประธานและสักขีพยานในพิธี พร้อมด้วย นายโชติ ตราชู ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และนายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย ร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ หรือ MOU ระหว่างสำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากับธนาคารกรุงไทย ณ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

สำหรับวัตถุประสงค์การจัดงานครั้งนี้เป็นไปตามที่ พระราชบัญญัตินโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2562 กำหนดให้มีการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยวภายในประเทศของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เพื่อใช้จ่ายในการบริหารและพัฒนาการท่องเที่ยว รวมทั้งใช้จ่ายในการจัดให้มีการประกันภัยแก่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในระหว่างท่องเที่ยวภายในประเทศ

ทั้งนี้ ด้วยเหตุดังกล่าว สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยสำนักงานกองทุนเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวไทย จึงได้เตรียมความพร้อมในการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เพื่อนำเงินจากการเก็บค่าธรรมเนียมดังกล่าวมาใช้เป็นเป็นทุนหมุนเวียนในการพัฒนาการท่องเที่ยว การสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยว การพัฒนาทักษะด้านการบริหาร การตลาด หรือการอนุรักษ์ทรัพยากร การท่องเที่ยวในชุมชน การดูแลรักษาคุณภาพแหล่งท่องเที่ยว การส่งเสริมสินค้าทางการท่องเที่ยวใหม่ ๆ ในท้องถิ่น เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างรายได้จากการท่องเที่ยวและเสริมสร้างการพัฒนาการท่องเที่ยวของประเทศให้สามารถแข่งขันได้อย่างยั่งยืน

นอกจากนี้ยังนำเงินดังกล่าวไปจัดให้มีการประกันภัยแก่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในระหว่างท่องเที่ยวภายในประเทศไทย ซึ่งเป็นผลประโยชน์โดยตรงที่นักท่องเที่ยวจะได้รับคืนกลับจากการชำระค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยว เพื่อเสริมสร้างความอุ่นใจและความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยว

สำหรับการจัดเก็บค่าธรรมเนียมจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยนั้น ทางสำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้มีแนวทางการจัดเก็บตามช่องทางการเดินทางต่าง ๆ เช่น ทางอากาศ ทางบก ทางน้ำ และทางราง โดยจัดเก็บผ่านทาง Website, Mobile application, Kiosk และบัตรโดยสารเครื่องบิน ทั้งนี้ ข้อมูลบางส่วนที่ได้จากการจัดเก็บฯ จะถูกนำมาวิเคราะห์เพื่อใช้ในการวางแผน หรือกำหนดนโยบายเพื่อตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยว และการพัฒนาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวไทยต่อไป

นอกจากนี้ สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ หรือ MOU กับธนาคารกรุงไทย ซึ่งเป็นธนาคารพาณิชย์ของรัฐ มีระบบรองรับการชำระเงินของภาครัฐที่มีประสิทธิภาพ ในการเชื่อมโยงบริการชำระเงินผ่านระบบ Krungthai Corporate Online ของธนาคารเข้ากับระบบการจัดเก็บค่าธรรมเนียมนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่เข้ามาท่องเที่ยวภายในประเทศ ของสำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่ออำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ทำให้การชำระค่าธรรมเนียมเป็นเรื่องง่าย รวดเร็ว โปร่งใส มีประสิทธิภาพสูงสุด และมั่นใจได้ว่า เงินค่าธรรมเนียมจะได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม เพื่อนำไปใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์ต่อไป

โดยเมื่อวันที่ 27 กันยายน นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ความคืบหน้าการดำเนินการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยวภายในประเทศของนักท่องเที่ยวต่างชาติ หรือ Thailand Traveller Fee และเรียกกันว่า ค่าเหยียบแผ่นดิน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัตินโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2562 ที่จะนำเงินค่าธรรมเนียมนี้ใช้จ่ายในการบริหารและพัฒนาการท่องเที่ยว รวมทั้งใช้จ่ายในการจัดให้มีการประกันภัยแก่นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติในระหว่างท่องเที่ยวภายในประเทศ ซึ่งเบื้องต้นคาดว่าอัตราค่าธรรมเนียมในส่วนของทางบกอยู่ที่ 100-200 บาท ส่วนทางอากาศจะอยู่ประมาณ 300 บาท

“ผลการศึกษาอัตราการจัดเก็บค่าธรรมเนียมทางบก คาดว่าจะเสร็จภายในอีก 3-4 วันนี้ ซึ่งจะจัดทำข้อมูลเพื่อนำเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในเดือนตุลาคมนี้ ทำให้เราต้องเตรียมความพร้อมล่วงหน้า เพื่อหาก ครม.อนุมัติแล้ว เราจะสามารถดำเนินการเก็บค่าธรรมเนียมนักท่องเที่ยวได้ทันที โดยการเก็บค่าธรรมนักท่องเที่ยวถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะขณะนี้รัฐบาลไม่ได้ให้เงินอุดหนุนในการดูแลนักท่องเที่ยว เมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินหรือการสูญเสียชีวิต ที่ต้องมีการเยียวยานักท่องเที่ยวด้วย หากไม่มีอะไรผิดพลาดคาดว่าจะเริ่มจัดเก็บได้ต้นปี 2566 ตามแผน” นายพิพัฒน์ กล่าว

นายพิพัฒน์ กล่าวอีกว่า กระทรวงการท่องเที่ยวฯได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (เอ็มโอยู) ระหว่างสำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬากับธนาคารกรุงไทย ซึ่งเป็นสถาบันการเงินขนาดใหญ่ มีระบบรองรับการชำระเงินของภาครัฐที่มีประสิทธิภาพ ในการเชื่อมโยงระบบบริการชำระเงินของธนาคารเข้ากับระบบการจัดเก็บค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยวภายในประเทศของนักท่องเที่ยวต่างชาติของสำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เพื่อนักท่องเที่ยวต่างชาติผู้ชำระค่าธรรมเนียมจะได้รับความสะดวกสบาย รวดเร็ว และมั่นใจได้ว่า เงินค่าธรรมเนียมจะได้รับการดูแลอย่างเหมาะสม เพื่อนำไปใช้จ่ายตามวัตถุประสงค์ต่อไป

สำหรับการจัดเก็บค่าธรรมเนียมดังกล่าว จะเก็บในช่องทางการเดินทาง ทั้งทางอากาศ ทางบก ทางน้ำ และทางราง ผ่านเว็บไซต์ แอพพลิเคชั่น Kiosk และบัตรโดยสารเครื่องบิน โดยข้อมูลบางส่วนที่ได้จากการจัดเก็บจะถูกนำมาวิเคราะห์เพื่อใช้ในการวางแผน หรือกำหนดนโยบายเพื่อตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยว และการพัฒนาอุตสากรรมท่องเที่ยว

Back to top button