สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 28 ก.ย. 2565
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 28 ก.ย. 2565
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 500 จุดในวันพุธ (28 ก.ย.) โดยได้ปัจจัยบวกจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐที่ปรับตัวลดลงหลังจากธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประกาศรับซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยไม่จำกัดจำนวนเพื่อสร้างเสถียรภาพในตลาด ทั้งนี้ การปรับตัวลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรช่วยหนุนหุ้นทุกกลุ่ม รวมถึงหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีซึ่งมีความอ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ย
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,683.74 จุด พุ่งขึ้น 548.75 จุด หรือ +1.88%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,719.04 จุด เพิ่มขึ้น 71.75 จุด หรือ +1.97% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 11,051.64 จุด เพิ่มขึ้น 222.13 จุด หรือ +2.05%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพุธ (28 ก.ย.) โดยได้แรงหนุนจากการที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) เปิดเผยว่า จะเข้าซื้อพันธบัตรเพื่อบรรเทาความปั่นป่วนในตลาดที่เกิดจากการเปิดเผยแผนการคลังของรัฐบาลอังกฤษ
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ระดับ 389.41 จุด เพิ่มขึ้น 1.17 จุด หรือ +0.30%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 5,765.01 จุด เพิ่มขึ้น 11.19 จุด หรือ +0.19%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,183.28 จุด เพิ่มขึ้น 43.60 จุด หรือ +0.36% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,005.39 จุด เพิ่มขึ้น 20.80 จุด หรือ +0.30%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันพุธ (28 ก.ย.) โดยได้แรงหนุน หลังธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ให้คำมั่นว่าจะเข้าซื้อพันธบัตรรัฐบาลอังกฤษเพื่อสร้างเสถียรภาพให้กับตลาดการเงิน
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,005.39 จุด เพิ่มขึ้น 20.80 จุด หรือ +0.30%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันพุธ (28 ก.ย.) หลังสหรัฐเปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งบ่งชี้ว่าความต้องการใช้น้ำมันยังคงฟื้นตัว นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และผลกระทบของพายุเฮอร์ริเคนเอียน (Ian) ที่เคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวเม็กซิโกซึ่งเป็นแหล่งผลิตน้ำมันนอกชายฝั่งของสหรัฐ
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. พุ่งขึ้น 3.65 ดอลลาร์ หรือ 4.7% ปิดที่ 82.15 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 3.05 ดอลลาร์ หรือ 3.5% ปิดที่ 89.32 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 30 ดอลลาร์ในวันพุธ (28 ก.ย.) โดยได้แรงหนนุจากการอ่อนค่าของดอลลาร์ และการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐ
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 33.8 ดอลลาร์ หรือ 2.07% ปิดที่ 1,670 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 54.3 เซนต์ หรือ 2.96% ปิดที่ 18.88 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนต.ค. เพิ่มขึ้น 21.1 ดอลลาร์ หรือ 2.51% ปิดที่ 860.80 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 78.70 ดอลลาร์ หรือ 3.8% ปิดที่ 2,169.10 ดอลลาร์/ออนซ์
เงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (28 ก.ย.) หลังจากธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) ประกาศมาตรการสร้างเสถียรภาพในตลาดการเงิน ด้วยการรับซื้อพันธบัตรระยะยาวของรัฐบาลอังกฤษโดยไม่จำกัดจำนวน
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ร่วงลง 1.31% แตะที่ระดับ 112.6080
เงินปอนด์แข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0903 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0733 ดอลลาร์ ขณะที่ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 0.9748 ดอลลาร์ จากระดับ 0.9602 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.6526 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6436 ดอลลาร์สหรัฐ
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 143.99 เยน จากระดับ 144.80 เยน และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9759 ฟรังก์ จากระดับ 0.9913 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3616 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3712 ดอลลาร์แคนาดา