PRIMO ยื่นไฟลิ่งขาย “ไอพีโอ” 80 ล้านหุ้น เทรด mai นำเงินขยายธุรกิจ

PRIMO ยื่นไฟลิ่งขาย “ไอพีโอ” 80 ล้านหุ้น ลงสนาม mai นำเงินขยายธุรกิจและเป็นทุนหมุนเวียนกิจการ มุ่งสู่ผู้นำท็อป 3 ในอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์สมัยใหม่แบบครบวงจร 


นางสาวจตุพร วิไลแก้ว ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีโม เซอร์วิส โซลูชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PRIMO เปิดเผยว่า บริษัทฯ เป็นผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรชั้นนำของประเทศ ที่มีประสบการณ์กว่า 11 ปี และได้รับการสนับสนุนจาก บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI ผู้พัฒนาอสังหาฯ ครบวงจร ซึ่งเป็นบริษัทแม่

โดยในช่วงที่ผ่านมาได้ขยายบริการที่เกี่ยวเนื่องกับอสังหาฯ ให้มีความหลากหลายแบบวันสต๊อปเซอร์วิส เพื่อตอบสนองทุกความต้องการด้านที่อยู่อาศัยภายใต้แนวคิด “Living Partner” เสมือนเป็นเพื่อนคู่คิดในการใช้ชีวิตร่วมกับลูกค้า เนื่องจากเห็นโอกาสจากดีมานด์ที่มีแนวโน้มเติบโตตามการขยายตัวของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และจะได้รับประโยขน์ภาพรวมเศรษฐกิจที่กำลังฟื้นตัว ตลอดจนไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคที่ใช้ชีวิตภายในบ้านและต้องการความสะดวกสบายเพิ่มขึ้น โดยบริษัทฯ มีฐานลูกค้าเป็นโครงการอสังหาฯ และลูกค้าของ ORI รวมถึงได้ขยายการให้บริการแก่ผู้พัฒนาอสังหาฯ รายอื่นๆ เพื่อการเติบโตอย่างมั่นคงในระยะยาว

ทั้งนี้บริษัทฯ ดำเนินธุรกิจในรูปแบบ Holding Company ภายใต้การดำเนินงานของ 8 บริษัทย่อย ปัจจุบันแบ่งการดำเนินธุรกิจเป็น 3 กลุ่ม ได้แก่ 1) ธุรกิจที่ปรึกษาและออกแบบทางวิศวกรรม (Pre-Living Services) ซึ่งเป็นธุรกิจให้บริการระดับต้นน้ำ โดยมีบริษัท ยูไนเต็ด โปรเจคต์ แมเนจเมนท์ จำกัด (UPM) ดำเนินธุรกิจให้บริการที่ปรึกษาและควบคุมงานก่อสร้างโครงการอสังหาริมทรัพย์ อาทิ คอนโดมิเนียม โรงแรมห้างสรรพสินค้า อาคารสำนักงาน คลังสินค้า ฯลฯ และมีสถาบัน “UPM Academy” ให้บริการจัดฝึกอบรมพัฒนาทักษะบุคลากร รวมถึงมีบริษัท ยูพีเอ็ม ดีไซน์ สตูดิโอ จำกัด (UDS) เป็นผู้ให้บริการออกแบบด้านสถาปัตยกรรม งานโครงสร้างและงานโยธา รวมถึงระบบวิศวกรรมของอาคาร

2) ธุรกิจบริหารจัดการอสังหาริมทรัพย์ (Living Services) ซึ่งเป็นธุรกิจให้บริการระดับกลางน้ำ อาทิ การบริหารจัดการนิติบุคคลอาคารชุดและบ้านจัดสรร, ห้างสรรพสินค้า, อาคารสำนักงาน, เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์, นายหน้าอสังหาริมทรัพย์, ที่ปรึกษาพัฒนาโครงการ ฯลฯ ภายใต้การดำเนินงานของ 4 บริษัทย่อย ได้แก่ บริษัท พรีโม แมเนจเม้นท์ จำกัด (PMM) โดยมีที่อยู่อาศัยที่รับบริหารนิติบุคลรวม 49 โครงการ (ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565), บริษัท คราวน์ เรสซิเดนซ์ จำกัด (CRD) โดยมีที่อยู่อาศัยระดับลักชัวรี่ภายใต้การบริหารงาน 13 โครงการ (ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565), บริษัท แฮมตัน โฮเทล แอนด์ เรสซิเดนซ์ แมเนจเม้นท์ จำกัด (HHR) เพื่อให้บริการบริหารจัดการอสังหาฯ ให้เช่าอยู่อาศัยในระยะยาว (Residential Property & Service Apartment) โดยมีโครงการภายใต้การบริหารจัดการ 5 แห่ง (ณ วันที่ 31 มีนาคม 2565) และบริษัท แพสชั่น เรียลเตอร์ จำกัด (PRT) เพื่อให้บริการตัวแทนซื้อ ขาย เช่า อสังหาฯ ครบวงจรและที่ปรึกษาพัฒนาโครงการอสังหาฯ โดยนำเทคโนโลยีไอทีมาปรับใช้เพื่อขับเคลื่อนธุรกิจและเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารต้นทุน

3) ธุรกิจให้บริการหลังการขายอสังหาริมทรัพย์ (Living & Earning Services) ซึ่งเป็นธุรกิจให้บริการระดับปลายน้ำ ได้แก่ บริการออกแบบและตกแต่งภายในห้องชุด บ้านพักอาศัย พื้นที่ส่วนกลางในโครงการอสังหาฯ โดยดำเนินงานภายใต้บริษัท วายด์ อินทีเรีย จำกัด (WYD) และบริการทำความสะอาดพื้นที่ส่วนกลางและภายในพื้นที่อยู่อาศัย เช่น บริการแม่บ้านแบบสัญญารายเดือนและรายครั้ง เป็นต้น ที่ดำเนินการภายใต้บริษัท อูโน่ เซอร์วิส จำกัด (UNO)

“จุดแข็งของบริษัทฯ คือมีบริการที่เกี่ยวเนื่องกับอสังหาฯ แบบครบวงจร ตั้งแต่ก่อนเข้าอยู่อาศัย เข้าอยู่อาศัยแล้ว และบริการหลังจากการขายอสังหาฯ ครอบคลุมตั้งแต่การออกแบบ ก่อสร้าง ตกแต่งภายใน บริหารนิติบุคคล ทำความสะอาด ดูแลสินทรัพย์ จนถึงรับฝากขายและให้เช่าอสังหาฯ ซึ่งมาจากการพัฒนาบริการอย่างต่อเนื่องเพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการด้านที่อยู่อาศัยในทุกจังหวะของการใช้ชีวิต หรือ “Your Dynamic Solution in Every Moment”

โดยบริษัทฯ มีวิสัยทัศน์เป็นผู้นำ 1 ใน 3 ของธุรกิจให้บริการด้านอสังหาริมทรัพย์สมัยใหม่แบบครบวงจร ด้วยการมุ่งพัฒนาและขยายการลงทุนด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด พร้อมทั้งวางเป้าหมายเป็นผู้ให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และลูกค้าที่เกี่ยวเนื่องอย่างครบวงจร ซึ่งเปรียบเสมือนเป็นผู้ช่วยส่วนตัวเพื่อตอบสนองความต้องการของกลุ่มลูกค้าเป้าหมายได้อย่างครบถ้วน” นางสาวจตุพร กล่าว

นายประเสริฐ ตันตยาวิทย์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที่ปรึกษา เอเซีย พลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า PRIMO เป็นผู้ดำเนินธุรกิจให้บริการที่เกี่ยวเนื่องกับอสังหาริมทรัพย์แบบครบวงจรที่มีศักยภาพเติบโตสูง ด้วยจุดเด่นด้านการให้บริการที่หลากหลายสามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างดี ล่าสุดอยู่ระหว่างการพิจารณาแบบคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์และแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (ไฟลิ่ง) โดยสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อเตรียมเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนต่อประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวนไม่เกิน 80 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วนไม่เกินร้อยละ 25 ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนครั้งนี้ และเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ

สำหรับปัจจุบัน PRIMO มีทุนจดทะเบียน 160 ล้านบาท แบ่งเป็นหุ้นสามัญจำนวน 320 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) 0.50 บาทต่อหุ้น โดยเป็นทุนที่ออกและชำระแล้ว 120 ล้านบาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 240 ล้านหุ้น โดยมีแผนนำเงินที่ได้จากการระดมทุนไปใช้ลงทุนขยายกิจการที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจปัจจุบัน รวมถึงใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในกิจการ

Back to top button