EGCO ปลื้ม “ทริสเรทติ้ง” จัดเครดิตองค์กรระดับ “AA+” ต่อเนื่อง 2 ปีซ้อน
EGCO ได้รับจัดเครดิตองค์กรระดับ “AA+” ต่อเนื่อง 2 ปีซ้อน ตอกย้ำสถานะบริษัทไทยชั้นนำที่ดำเนินธุรกิจไฟฟ้าและพลังงานอย่างยั่งยืน เพื่อเสริมสภาพคล่องที่แข็งแกร่ง
บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO ได้รับการจัดอันดับเครดิตองค์กร (Company Rating) คงที่ที่ระดับ “AA+” จากทริสเรทติ้งต่อเนื่อง 2 ปีซ้อน ตอกย้ำสถานะบริษัทไทยชั้นนำที่ดำเนินธุรกิจไฟฟ้าและพลังงานอย่างยั่งยืน มีการลงทุนที่หลากหลายชนิดเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้า มีผลการดำเนินงานที่โดดเด่น รวมทั้งมีกระแสเงินสดและสภาพคล่องที่แข็งแกร่ง
ด้าน นายเทพรัตน์ เทพพิทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ EGCO กล่าวว่า “ทริสเรทติ้ง สถาบันจัดอันดับเครดิตชั้นนำในประเทศไทย ได้ประกาศผลการจัดอันดับเครดิตองค์กรของเอ็กโก กรุ๊ปในปี 2565 ที่ระดับ “AA+” ซึ่งเทียบเท่ากับปีที่แล้ว เพื่อสะท้อนถึงสถานะของบริษัทที่เป็นผู้ผลิตไฟฟ้าชั้นนำที่มีการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าที่มีความหลากหลาย ทั้งในด้านประเภทการผลิต ชนิดของเชื้อเพลิงที่ใช้ และทำเลที่ตั้ง ตลอดจนมีกระแสเงินสดที่มีความมั่นคงในระดับสูงจากการมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้าระยะยาว และมีสภาพคล่องที่แข็งแกร่ง รวมถึงมีประวัติการดำเนินงานที่โดดเด่นและยาวนานกว่า 30 ปีอีกด้วย
ขณะที่ทริสเรทติ้งได้ทบทวนแนวโน้มอันดับเครดิต (Rating Outlook) ของเอ็กโก กรุ๊ป เป็นลบ (Negative) เพื่อสะท้อนระดับหนี้สินที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น เนื่องจากการขยายการลงทุนใหม่อย่างต่อเนื่องในธุรกิจไฟฟ้า และธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่อง ภายใต้แนวคิด “Cleaner, Smarter, and Stronger to Drive Sustainable Growth”
อย่างไรก็ตาม แนวโน้มอันดับเครดิตอาจถูกปรับกลับไปเป็น คงที่ (Stable) หากบริษัทสามารถทำให้สถานะทางการเงินปรับตัวดีขึ้นในช่วงที่มีการลงทุนขนาดใหญ่จำนวนมาก
“การจัดอันดับเครดิตของทริสเรทติ้งสะท้อนถึงความเชื่อมั่นต่อการดำเนินธุรกิจ กระแสเงินสดและสภาพคล่องที่แข็งแกร่งของเอ็กโก กรุ๊ป ท่ามกลางความผันผวนจากสภาพเศรษฐกิจโลก ต้นทุนเชื้อเพลิง และการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมพลังงาน ทั้งนี้ เอ็กโก กรุ๊ป ยังคงเดินหน้าสร้างการเติบโตทางธุรกิจอย่างต่อเนื่อง ด้วยการแสวงหาโอกาสการลงทุนในธุรกิจไฟฟ้าและธุรกิจพลังงานที่เกี่ยวเนื่องตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำทั้งในและต่างประเทศ ควบคู่กับการบริหารจัดการสถานะทางการเงินให้มีความแข็งแกร่งและพร้อมรับมือกับความท้าทายต่างๆ อย่างสม่ำเสมอ เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผู้ถือหุ้นและผู้มีส่วนได้เสียอย่างยั่งยืน” นายเทพรัตน์ กล่าว