U เคาะชื่อใหม่ “แรบบิท โฮลดิ้งส์” เบนเข็มรุกสินเชื่อกลุ่ม BTS

U ประกาศเปลี่ยนชื่อใหม่ "แรบบิท โฮลดิ้งส์" มุ่งเป็นหัวหอกของกลุ่ม BTS ในการดำเนินธุรกิจบริการทางการเงิน และสร้าง synergy ร่วมกับบริษัทต่าง ๆ ทั้งภายในกลุ่มบีทีเอส และภายในเครือข่ายบริษัทพันธมิตรภายใต้กลยุทธ 3M


นางสาวสรญา เสฐียรโกเศศ รักษาการประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยู ซิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ U เปิดเผยว่า บริษัทฯได้ประกาศเปลี่ยนชื่อบริษัทเป็น บริษัท  แรบบิท โฮลดิ้งส์ จำกัด เพื่อสะท้อนการปรับเปลี่ยนทิศทางการดำเนินธุรกิจในระยะยาวที่มุ่งเน้นการดำเนินธุรกิจบริการทางการเงินเป็นหลัก นอกจากการเปลี่ยนชื่อบริษัทแล้ว ยู ซิตี้ได้ตอกย้ำแนวทางดังกล่าวด้วยการทยอยขายทรัพย์สินประเภทอสังหาริมทรัพย์ตลอดทั้งปีที่ผ่านมา ไม่ว่าจะเป็นการขายโรงแรมอนันตรา เชียงใหม่ รีสอร์ท แอนด์ สปา ในเดือนมกราคม 2565 การขายหุ้นของบริษัทย่อยที่ดำเนินธุรกิจโรงแรมในยุโรปในช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา รวมทั้งการขายที่ดินอีกหลายผืน รวมมูลค่ากว่า 2,100 ล้านบาท

ขณะเดียวกัน ยู ซิตี้ ได้ประกาศขายบริษัทร่วมทุน (JV) และบริษัทย่อยอีกรวม 7 บริษัท ที่ร่วมลงทุนในโครงการพัฒนาอสังหาริมทรัพย์กับ บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NOBLE ให้กับ บริษัท ธนูลักษณ์ จำกัด (มหาชน) หรือ TNL ด้วยราคาประมาณ 532 ล้านบาท ทั้งนี้ หากรวมภาระหนี้เงินกู้ยืมที่ ยู ซิตี้ มีกับบริษัทร่วมทุน (JV) และบริษัทย่อยดังกล่าวที่ TNL ต้องชำระคืนให้กับ ยู ซิตี้ ภายในเดือนมิถุนายน 2566 แล้ว ธุรกรรมนี้จะมีมูลค่ารวมกว่า 2,400 ล้านบาท

โดยการเปลี่ยนชื่อบริษัทจะช่วยสร้างภาพจำและมอบความเข้าใจใหม่แก่ผู้ถือหุ้นและนักลงทุน แสดงให้เห็นว่าธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ไม่ได้เป็นธุรกิจหลักของบริษัทฯ อีกต่อไป แต่ U หรือ แรบบิท โฮลดิ้งส์ ได้ปรับทิศทางดำเนินธุรกิจ แล้วกลายเป็นหัวหอกของกลุ่มบีทีเอสในการดำเนินธุรกิจบริการทางการเงิน และสร้าง synergy ร่วมกับบริษัทต่าง ๆ ทั้งภายในกลุ่มบีทีเอส และภายในเครือข่ายบริษัทพันธมิตรภายใต้กลยุทธ 3M ของกลุ่มบีทีเอส

ด้าน นางสาวสรญา กล่าวเพิ่มเติมว่า การประกาศขายบริษัทร่วมทุนกับ NOBLE ทั้ง 7 แห่ง ให้กับ TNL นับเป็นส่วนหนึ่งของการปรับทิศทางการดำเนินธุรกิจ และจะสามารถรับรู้รายได้จากการขายได้ทันทีโดยไม่ต้องรอการพัฒนาโครงการดังกล่าวจนแล้วเสร็จ โดยเงินที่ได้จากการขายจะนำมาเพิ่มสภาพคล่องให้กับบริษัทฯ รวมทั้งเป็นแหล่งเงินทุนเพิ่มเติมสำหรับการเข้าลงทุนในธุรกิจบริการทางการเงิน ซึ่งเป็นจะเป็นธุรกิจหลักในระยะยาวของเรา โดยที่ผ่านมา เราได้เข้าลงทุนไปแล้วบางส่วน เช่น การเข้าลงทุนใน Rabbit Life ซึ่งเป็นบริษัทประกันชีวิต รวมถึงการเข้าลงทุนในบริษัท เจ มาร์ท จำกัด (มหาชน) หรือ JMART และบริษัท ซิงเกอร์ประเทศไทย จำกัด (มหาชน) หรือ SINGER เป็นต้น ในส่วนทรัพย์สินด้านอสังหาริมทรัพย์ที่เหลืออยู่นั้น บริษัทฯ จะทยอยขายออกภายในระยะเวลา 3 ปี

นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ดำเนินการลดทุนจดทะเบียนและการลดมูลค่าหุ้นที่ตราไว้ (ลดพาร์) ของบริษัทฯ จาก 3.20 บาทต่อหุ้น เป็น 1.40 บาทต่อหุ้น ส่งผลให้จำนวนทุนจดทะเบียนและจำนวนทุนจดทะเบียนชำระแล้วภายหลังจากการเปลี่ยนแปลงจะลดลงเป็น 47,941,667,251.80 บาท และ 44,546,837,795.60 ตามลำดับ โดยการลดทุน และลดพาร์ในครั้งนี้ จะช่วยให้บริษัทฯ สามารถชดเชยส่วนต่ำมูลค่าหุ้นสำหรับหุ้นบุริมสิทธิ (U-P) ที่มีอยู่ราว 56,000 บาท ออกไปได้ ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ ไม่ติดข้อจำกัดในการจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในอนาคตได้ตามกฎระเบียบต่าง ๆ ที่กำหนดไว้

อย่างไรก็ดี ธุรกรรมทั้งหมดนี้ต้องได้รับการอนุมัติโดยผู้ถือหุ้น โดยบริษัทฯ ได้กำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2565 ในวันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน 2565 เวลา 14.00 น. ชั้น 23 ณ โรงแรมเซ็นทารา  แกรนด์ และบางกอกคอนเวนชัน เซ็นเตอร์ เซ็นทรัลเวิลด์ และกำหนดวันกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิเข้าร่วมประชุมดังกล่าว (Record Date) ในวันอังคารที่ 18 ตุลาคม 2565

Back to top button