“ฟินันเซีย” คัด 5 หุ้นท็อปพิก ต.ค. ชู BBL-BDMS-CK เด่น
“บล.ฟินันเซีย ไซรัส” ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวเดือน ต.ค. ที่ระดับ 1,575-1,640 จุด คัด 5 หุ้นท็อปพิกเดือนนี้ ชู BBL-BDMS-CK-CPALL-TU เด่น
บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันเซีย ไซรัส จำกัด ประเมินกรอบการเคลื่อนไหวเดือน ต.ค. ที่ระดับ 1,575-1,640 จุด โดยมองว่ายังคงมีความผันผวน แต่คาด Downside แคบลงหลังปรับฐานแรงพอควรไปแล้วจากแนวโน้มเงินเฟ้อและอัตราดอกเบี้ยที่สูงและยาวนานกว่าที่เคยประเมินหลังทราบผลการประชุม FED ECB และกนง.เดือนก่อน
ส่วนปัจจัยที่ต้องติดตามส่วนใหญ่เป็นตัวเลขเศรษฐกิจทั่วโลก และผลประกอบการไตรมาส 3/65 ของกลุ่มธนาคารมองจังหวะปรับฐานของดัชนียังเป็นจังหวะทยอยสะสมหุ้นกลับบริเวณแนวรับหลัก 1,580+- จุด และยังให้น้ำหนักบวกจากแนวโน้มเศรษฐกิจไทยที่เป็นขาขึ้น โดยยังคงเน้นลงทุนในกลุ่ม
โดยตลาดอยู่ในช่วงปรับฐานรับดอกเบี้ยที่สูงนาน SET Index แกว่งตัวผันผวนในเดือน ก.ย. โดยปรับขึ้นดีช่วงต้นเดือน ก่อนจะพักฐานแรงและใกล้ทดสอบแนวรับสำคัญ 1,580 จุด โดยตลาดมีการปรับพอร์ตหลัง Bond Yield ยังพุ่งขึ้น ขณะที่แนวโน้มดอกเบี้ยทั่วโลกคาดยังปรับขึ้นและยืนสูงยาวนานกว่าคาด เป็นปัจจัยกดดันต่อสินทรัพย์เสี่ยง ขณะที่กระแสเงินทุนต่างชาติพลิกมาไหลออกระยะสั้นราว 2.5 หมื่นล้านบาท ในเดือน ก.ย. หลังจาก 8 เดือนแรกของปีซื้อสุทธิกว่า 1.7 แสนล้านบาท
พร้อมกันนี้ ประเมินการเคลื่อนไหวของดัชนีในเดือน ต.ค. ยังคงผันผวนต่อเพราะขาดปัจจัยบวกใหม่เข้ามาหนุน แต่ Downside เริ่มจำกัดมากขึ้น สิ่งที่ต้องติดตามคือตัวเลขเศรษฐกิจเดือน ก.ย. ทั่วโลกที่จะทยอยประกาศโดยเฉพาะเงินเฟ้อ หากยังชะลอตัวอย่างช้าๆ คาดยังเป็นปัจจัยกดดันและจำกัดการฟื้นตัวของตลาด มองกรอบการเคลื่อนไหวของเดือนที่ 1,575-1,640 จุด
รวมถึงอีกหนึ่งไฮไลท์ของเดือนคือการประกาศกำไรไตรมาส 3/65 ของกลุ่มธนาคาร โดยเบื้องต้นประเมิน Flat จากไตรมาสก่อนจากปัจจัยฤดูกาลที่ฝนตกชุก ทำให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจชะลอ แต่เทียบกับปีก่อนคาดว่ายังโตสูงจากฐานต่ำปีก่อนที่มีเดลต้าระบาดหนัก และภาพรวมเศรษฐกิจทยอยฟื้นตัวเป็นบวกต่อการเติบโตของสินเชื่อที่เร่งตัว การตั้งสารองที่ลดลงจาก 2 ปีที่ผ่านมาอย่างมีนัยยะ
นอกจากนี้จะเริ่มทยอยได้อานิสงส์เชิงบวกจากการทยอยเห็นการส่งผ่านนโยบายของธปท.จากการปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากและเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์ในไตรมาส 4/65 เป็น ต้นไปและจะชัดเจนมากขึ้นในปี 66 คาดกนง.ขึ้นดอกเบี้ยนโยบายปีนี้เป็น 1.25% และ 1.75% ปี 66 สะสมเพิ่มช่วงพักฐาน ยังเน้น Domestic/Reopening Play
โดยมองพักตัวของดัชนีในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมาเป็นการพักตัวระยะสั้นจากปัจจัยภายนอกที่กดดันเป็นหลักจาก Bond Yield ที่พุ่งแรง แต่จากแนวโน้มเศรษฐกิจในประเทศที่เป็นขาขึ้น คาดว่า SET Index จะฟื้นตัวได้ในระยะถัดไป พร้อมประเมินแนวรับหลัก 1,580+- จุดเป็นระดับที่น่าสนใจในแง่ Valuation และ Technical รวมถึงมี Upside เปิดกว้างเทียบกับ SET Target ปี 66 ที่ 1,760 จุด
อย่างไรก็ตาม ยังเน้นกลุ่ม Domestic และ Reopening Play เป็นหลักเช่นเดิม และเชื่อว่า Stock Selection จะมีความสำคัญอย่างมากในช่วง 1 ปีข้างหน้าที่อัตราดอกเบี้ยยังอยู่ในระดับสูง และจะทำให้พอร์ตการลงทุนสามารถชนะตลาดได้ สำหรับหุ้นท็อปพิก 5 ตัวเดือน ต.ค. ได้แก่ BBL, BDMS, CK, CPALL และ TU