คัด 11 หุ้นน่าเก็บ รับอานิสงส์ท่องเที่ยว-บาทอ่อน
ดักเก็บ 11 หุ้น ERW, CENTEL, VRANDA, ASAP, SPA, BRR, KSL, TFG, GFPT, ASIAN และ JUBILE รับอานิสงส์ท่องเที่ยวเข้าไฮซีซั่น รัฐกระตุ้นการท่องเที่ยว บาทอ่อนหนุนส่งออกโต
นางสาววิลาสินี บุญมาสูงทรง ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด หรือ GBS ประเมินทิศทางตลาดหุ้นไทยในสัปดาห์นี้แกว่งตัวผันผวน ได้รับแรงกดดันภายหลังสหรัฐเปิดเผยข้อมูลเงินเฟ้อ (PCE) พื้นฐาน ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงานในเดือนส.ค. เพิ่มขึ้น 4.9% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 0.6% จากเดือนก่อนหน้า ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 4.7% จากงวดเดียวกันของปีก่อน จากระดับ 4.7% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และ 0.5% จากเดือนก่อนหน้า หลังจากทรงตัวในเดือนก.ค. อีกทั้งแนวโน้มอัตราผลตอบแทนของสัญญา CDS ระยะเวลา 5 ปีของเครดิตสวิสพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 10 ปีบั่นทอนความเชื่อมั่นของนักลงทุน ขณะที่ผู้บริหารเร่งสร้างความเชื่อมั่นจากกลุ่มลูกค้ารายใหญ่
ขณะที่สถานการณ์สงครามรัสเซีย-ยูเครนยังมีโอกาสยืดเยื้อต่อภายหลังจากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ลงนามในกฤษฎีกาเพื่อรับรองความเป็นอิสระของแคว้นซาปอริซเซียและแคว้นเคอร์ซอน ซึ่งเป็นสองแคว้นทางตอนใต้ของยูเครนที่รัสเซียสามารถยึดครองได้เป็นบางส่วน ส่วนยูเครนประกาศว่าสามารถยึดคืนพื้นที่ศูนย์ส่งกำลังบำรุงทางตะวันออกของเมืองลือมันได้โดยสมบูรณ์แล้ว ส่วนตลาดหุ้นจีนปิดวันหยุดยาวส่งผลให้ Fund Flow นักลงทุนต่างชาติอาจเบาบางลง จึงคาดการณ์การเคลื่อนไหวของดัชนีในกรอบ 1,550-1,600 จุด
ดังนั้น แนะนำกลยุทธ์การลงทุนที่ได้ประโยชน์จากการยกเลิกพ.ร.ก.ฉุกเฉินควบคุมสถานการณ์แพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 มีผลวันที่ 1 ต.ค. 65 ซึ่งส่งผลดีต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยว ประกอบกับการเข้าสู่ฤดูกาลไฮซีซั่นในช่วงปลายปี และการออกแคมเปญกระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง อาทิ ตั๋วเครื่องบินราคาถูก โดยหุ้นที่ได้ประโยชน์ ได้แก่ ERW, CENTEL, VRANDA, ASAP และ SPA รวมทั้งหุ้นที่ได้ประโยชน์จากตัวเลขส่งออกเดือน ส.ค. 65 เติบโตดี จากค่าเงินบาทที่อ่อนค่า ได้แก่ น้ำตาลทราย ไก่สดแช่แข็ง อัญมณีและเครื่องประดับ โดยหุ้นที่ได้อานิสงส์ ได้แก่ BRR, KSL, TFG, GFPT, ASIAN และ JUBILE
ส่วนทิศทางการลงทุนในทองคำ นายณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็ก กล่าวว่า ในเดือนตุลาคมนี้ยังคงเป็นโจทย์สำคัญสำหรับทองคำ เนื่องจากช่วงปลายเดือนที่ผ่านธนาคารกลางของอังกฤษได้กลับมาซื้อพันธบัตรรัฐบาลโดยไม่จำกัดจำนวน สาเหตุมาจากต้องการสร้างเสถียรภาพตลาดพันธบัตรและตลาดการเงินภายในประเทศ ผลส่งให้ดัชนีดอลลาร์เริ่มอ่อนตัวลง เหตุการณ์ดังกล่าวสร้างความผันผวนให้กับราคาทองคำในระยะสั้น แต่ในช่วงต้นเดือนปัจจัยที่ตลาดจับตา คือ ภาคแรงงานของสหรัฐและอัตราเงินเฟ้อ หากยังสูงกว่าคาดการณ์อาจเป็นปัจจัยให้เฟดเร่งปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งถัดไป
โดยทางฝ่ายวิจัยประเมินว่าราคาทองคำยังทรงตัวในระดับต่ำเพื่อสร้างฐาน มุมมองทองคำอาจ sideway ในกรอบ 1,600-1,700 $/oz การรีบาวด์ยังทำได้จำกัด ขณะที่ตลาดยังถูกกดดันต่อเนื่อง จึงแนะนำซื้อขายตามกรอบที่ให้ไว้