“ครม.” เคาะแผนพัฒนา “ตลาดทุนไทย” ปี 65-70 ส่งเสริมดิจิทัล เพิ่มศักยภาพแข่งขัน

“ครม.” เคาะแผนพัฒนา “ตลาดทุนไทย” ปี 65-70 ส่งเสริมใช้เทคโนโลยีดิจิทัล สามารถเข้าถึงแข่งขันได้ เชื่อมโยง และสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน


นางสาวทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติรับร่างหลักการการจัดทำแผนพัฒนาตลาดทุนไทยฉบับที่ 4 (ปี 65-70) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอเพื่อดำเนินการต่อเนื่องให้บรรลุเป้าหมายที่จะพัฒนาตลาดทุนไทยให้สามารถเข้าถึงแข่งขันได้ เชื่อมโยง และสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างยั่งยืน

สำหรับแผนพัฒนาตลาดทุนไทยฉบับที่ 4 นั้น สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) จะจัดทำแผนตามหลักการที่ ครม. มีมติรับร่างหลักการที่มีสาระสำคัญ คือ แผนยุทธศาสตร์การพัฒนาตลาดทุนของต่างประเทศ, การเพิ่มศักยภาพและขีดความสามารถในการแข่งขันของตลาดทุนไทย, การส่งเสริมการเข้าถึงทางการเงินผ่านกลไกตลาดทุน, การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลสำหรับตลาดทุน  ตลาดทุนยั่งยืน และการสร้างสุขภาพทางการเงินที่ดีในระยะยาวครอบคลุมถึงวัยเกษียณต่อไป

นอกจากนี้ ที่ประชุมครม.รับทราบรายงานสรุปผลการดำเนินการภายใต้แผนพัฒนาตลาดทุนไทยฉบับที่ 3 (60-64)  ภายใต้ 7 มาตรการสำคัญและมีผลสำเร็จดังนี้

1.การเป็นแหล่งเงินทุนสำหรับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และวิสาหกิจเริ่มต้น (Startup) โดยได้มีการออกหลักเกณฑ์ เพื่อพัฒนาเครื่องมือการระดมทุนของกิจการจากบุคคลจำนวนมาก สำหรับตราสารหนี้และธุรกรรมการกู้ยืมเงินระหว่างบุคคลผ่านออนไลน์ได้ และกำลังดำเนินการจัดทำกลไกคะแนนเครดิตที่สถาบันการเงินใช้ประเมินความสามารถในการชำระหนี้ให้แก่ SMEs

2.การเป็นแหล่งระดมทุนสำหรับโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ โดยได้แก้เกณฑ์ เพื่อรองรับการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน เพื่ออนาคตประเทศไทยเรียบร้อยแล้ว และอยู่ในระหว่างดำเนินการแผนงานการปรับปรุงเกณฑ์ภาษี กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน

3.การเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของตลาดทุนไทยที่เร่งดำเนินการเสร็จเรียบร้อยไปแล้ว 25 แผนงานจากแผนงานทั้งหมด 33 แผนงาน แผนงานที่ดำเนินการเรียบร้อยแล้วตามมาตรการนี้ อาทิเช่น การแก้ไข พ.ร.บ. หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบังคับใช้กฎหมายของการกระทำความผิด รวมถึงมี 7 แผนงานที่อยู่ระหว่างดำเนินการ เช่น การแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ กฎเกณฑ์เพื่อรองรับธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์

  1. การพัฒนาให้ตลาดทุนไทยเป็นจุดเชื่อมโยงของภูมิภาค ได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้วทั้ง 7 แผนงาน เช่น การอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนต่างชาติที่ต้องการนำเงินไปลงทุนในกลุ่มประเทศ CLMV ได้แก่ กัมพูชา, สปป.ลาว, เมียนมา, และเวียดนาม
  2. การมีแผนรองรับสังคมผู้สูงอายุ ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ 4 แผนงาน เช่น การศึกษาเพื่อปรับปรุง พ.ร.บ. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ พ.ศ. 2530 เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการเป็นแหล่งเงินออมสำคัญ รองรับการเกษียณ และมีแผนงานที่อยู่ระหว่างดำเนินการ 4 แผนงาน เช่น การจัดให้มีผู้ทำหน้าที่กำหนดนโยบายระบบการออมเพื่อการเกษียณอายุทุกระบบของประเทศ
  3. การพัฒนาตลาดทุนดิจิทัลที่แผนงานการพัฒนาการจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ผ่านเทคโนโลยี Blockchain ได้ดำเนินการเรียบร้อยแล้ว ส่วนแผนงานการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลเพื่อเป็นโครงสร้างพื้นฐานกลางในตลาดทุนโดยใช้เทคโนโลยีจัดเก็บข้อมูลกำลังดำเนินการอยู่
  4. การส่งเสริมการพัฒนาอย่างยั่งยืน 5 ใน 7 แผนงานได้ดำเนินการแล้ว เช่น การจัดทำ Roadmap เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการไปสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนสำหรับตลาดทุนไทย และกำลังเร่งดำเนินการแผนงานการพัฒนาและสนับสนุนเครื่องมือระดมทุนเพื่อส่งเสริมความยั่งยืน

Back to top button