SNNP ลุ้นไตรมาส 3 กำไรโต 128% โบรกอัพเป้าใหม่ 27 บ.

SNNP ลุ้นไตรมาส 3/65 กำไรออลไทม์ไฮแตะ 140 ล้านบาท โตกระฉูด 128% จากช่วงปีก่อน รับอนิสงส์รายได้รวมเพิ่มขึ้น รวมถึงอัตรากำไรขั้นต้นขยายตัวจากสินค้าใหม่ และโรงงานที่กัมพูชาพลิกกลับมาเป็นกำไร ส่งผลให้โบรกอัพเป้าราคาใหม่ 27 บาท


บริษัทหลักทรัพย์ ดาโอ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (6 ต.ค.65) ถึงกรณีของ บริษัท ศรีนานาพร มาร์เก็ตติ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ SNNP ว่า ในไตรมาส 3/65 ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ โดยประเมินกำไรสุทธิ ไตรมาส 3/65 อยู่ที่ 140 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 128% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 21% จากไตรมาสก่อน

สำหรับกำไรไตรมาส 3/65 เติบโตโดดเด่นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันกับปีก่อน คาดว่ารายได้รวมจะทำสถิติสูงสุดใหม่โดยเพิ่มขึ้น 48% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน เทียบจากฐานรายได้ที่ต่ำในช่วงไตรมาส 3/64 สาเหตุจากการล๊อคดาวน์ อีกทั้งในไตรมาส 3/65 มีการออกสินค้าใหม่ 3 SKUs และปรับโฉมเจเล่ใหม่ ส่งผลให้รายได้ส่วนในประเทศเติบโตเพิ่มขึ้น 33% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน ส่วนด้านรายได้ต่างประเทศขยายตัวเพิ่มขึ้น 109% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน จากรายได้ CLMV คือ กัมพูชา, สปป.ลาว, เมียนมา และเวียดนาม และรายได้จากประเทศอื่นเติบโตอย่างมีนัยสำคัญจากสถานการณ์โควิด-19 ที่คลี่คลาย

นอกจากนี้ อัตรากำไรขั้นต้น (GPM) ขยายตัวจากสินค้าใหม่ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้น เนื่องมาจากอัตราการใช้ที่ดีขึ้นในส่วนของโรงงานทั้งในประเทศ และต่างประเทศ

รวมทั้งโรงงานที่กัมพูชาพลิกกลับมามีกำไรตั้งแต่เดือน ก.ค. อีกทั้ง SIRIPRO breakeven ปลายไตรมาส 3/65 ได้มีกำไรที่ขยายตัวขึ้น รวมถึงในส่วนของรายได้และอัตรากำไรขั้นต้นมีการขยายตัวโดยต้นทุนของวัตถุดิบมีแนวโน้มปรับตัวลดลง อาทิ แป้ง, น้ำมันปาล์ม และ packaging

ขณะเดียวกันได้ปรับประมาณการกำไรปกติปี 65-66 เพิ่มขึ้น 4% เพื่อสะท้อนแนวโน้มผลประกอบการในไตรมาส 3/65 และผลลัพธ์ที่ดีเกินคาดจากสินค้าเดิมที่เติบโตต่อเนื่อง รวมถึงสินค้าใหม่เช่นเดียวกัน ผลิตภัณฑ์ เจเล่ Chewy รสใหม่มีการปรับโฉมเจเล่ แบบซอง และรายได้ต่างประเทศที่ขยายตัวมากกว่าคาด จากการรุกทาตลาดประเทศฟิลิปปินส์

ทั้งนี้ได้ประเมินกำไรปกติปี 65 อยู่ที่ 520 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 69% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน หนุนโดยรายได้รวมขยายตัวเพิ่มขึ้น 25% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน ซึ่งมีส่วนอัตรากำไรขั้นต้นขยายตัวจากอัตราการใช้ที่ฟื้นตัว และสินค้าใหม่ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงเพิ่มขึ้น พร้อมทั้งรับรู้ดอกเบี้ยจ่ายที่ลดลงเต็มปี มิหนำซ้ำโรงงานที่กัมพูชาพลิกฟื้นเป็นกำไร และ SIRIPRO จะ breakeven ตั้งแต่ปลายไตรมาส 3/65 เป็นต้นไป

ส่วนผลการดำเนินงานปี 66 คาดกำไรปกติอยู่ที่ 680 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน โดยรับปัจจัยหนุนบนสมมติฐานรายได้รวมขยายตัวเพิ่มขึ้น 14% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน จากรายได้ต่างประเทศขยายตัวเพิ่มขึ้น 15% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน และในประเทศขยายตัว 13% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน

อีกทั้งรับรู้รายได้จากโรงงานใหม่ที่เวียดนามและรายได้ฟิลิปปินส์เต็มปี ส่วนอัตรากำไรขั้นต้นขยายตัวจากต้นทุนวัตถุดิบที่ลดลง และสินค้าใหม่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูง เช่นเดียวกับ SIRIPRO และโรงงานกัมพูชาพลิกฟื้นเป็นกำไร

ดังนั้นทางฝ่ายวิจัยปรับราคาเป้าหมายเป็นปี 66 ที่ 27.00 บาท โดยอิงจากค่า PER ที่ 38.0 เท่า (เดิม 20.00 บาท อิงปี 65 ค่า PER ที่ 38 เท่า) ซึ่งมองว่าผลประกอบการเดินหน้าเข้าสู่วัฏจักรการเติบโตรอบใหม่ หนุนโดยการเติบโตของธุรกิจเดิม และธุรกิจใหม่ แต่ยังไม่ได้รวมรายได้จากสินค้านวัตกรรมและรายได้ตลาดใหม่ในต่างประเทศในประมาณการ

Back to top button