ดีเดย์! “อินโนเวสท์ เอกซ์” เปิดเทรด 21 เหรียญคริปโทฯ ตั้งเป้าปี 68 ขึ้น Top5 อาเซียน

นายอารักษ์ สุธีวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บล.อินโนเวสท์ เอกซ์ (InnovestX) เปิดเผยว่า ปัจจุบันเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทอย่างมากในการปรับเปลี่ยนภูมิทัศน์และขับเคลื่อนอนาคตโลกการเงิน โดยเฉพาะเทคโนโลยี Blockchain ซึ่งเป็นเทคโนโลยีพื้นฐานของสินทรัพย์ดิจิทัล และถูกนำมาใช้ประโยชน์อย่างกว้างขวาง ส่งผลให้โลกการเงินเติบโตอย่างก้าวกระโดด นำมาซึ่งโอกาสและความเป็นไปได้ใหม่ๆ ทั้งในอุตสาหกรรมการเงิน และการลงทุน

ดังนั้น InnovestX จึงได้ปรับยุทธศาสตร์องค์กรครั้งสำคัญภายใต้แนวคิด “Future of Finance Reimagined” ต่อยอดการให้บริการด้านการลงทุนแบบดั้งเดิม และเตรียมความพร้อมเข้าสู่ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลครบวงจร มุ่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน และระบบนิเวศอุตสาหกรรมการเงินและการลงทุนแห่งอนาคต เพื่อที่จะทำให้การลงทุนและสินทรัพย์ดิจิทัลนั้นเป็นเรื่องที่เข้าถึงง่าย ทุกคนเข้าถึงได้ผ่านเทคโนโลยี และนวัตกรรมต่างๆ สู่จักรวาลแห่งโอกาสทางการเงินการลงทุนได้อย่างเท่าเทียม ตั้งเป้าสู่การเป็นผู้นำด้านการลงทุนและสินทรัพย์ดิจิทัลครบวงจรแห่งภูมิภาคอาเซียน

“วันนี้เราจึงได้นำเอาความสามารถทางเทคโนโลยี ผสานเข้ากับความเชี่ยวชาญในธุรกิจ และความเข้าใจนักลงทุน พัฒนาแพลตฟอร์มใหม่ ภายใต้ชื่อ InnovestX App ซูเปอร์แอปแรกในไทยที่รวมทุกสินทรัพย์ในแอปเดียว ครอบคลุม ทั้งหุ้นไทย หุ้นต่างประเทศ กองทุน ตราสารหนี้ และสินทรัพย์ดิจิทัล ผ่านการออกแบบภายใต้แนวคิดบนพื้นฐานของความเข้าใจในความต้องการของลูกค้าที่แตกต่างกัน ไม่ว่าจะเป็นมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มลงทุน หรือนักลงทุนที่มีประสบการณ์ เราคาดหวังว่าแอป InnovestX จะเพิ่มโอกาสให้ทุกคนสามารถเข้าสู่การลงทุนในหลากหลายรูปแบบ เข้าถึงโอกาสจากทุกมุมโลกได้ทัดเทียมกับประเทศที่พัฒนาแล้ว และสามารถสร้างการเติบโตทางการเงินอย่างมั่นคงในระยะยาวไปพร้อมกัน” นายอารักษ์ กล่าว

นอกจากนี้ได้เตรียมความพร้อมในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและระบบนิเวศอุตสาหกรรมการเงิน และการลงทุนแห่งอนาคตบนพื้นฐานเทคโนโลยี Blockchain และสินทรัพย์ดิจิทัล เพื่อรองรับบริบทใหม่ของโลกการเงินการลงทุนแห่งอนาคต เตรียมผนึกกำลังบริษัทในกลุ่ม SCBX อาทิ Token X และ SCB 10X ผ่านการศึกษา และมองหาโอกาสและความเป็นไปได้ใหม่ๆ เพื่อเร่งพัฒนาการสร้างบริการด้านสินทรัพย์ดิจิทัลอย่างครบวงจร เพื่อให้คนไทยได้ประโยชน์สูงสุด

ทั้งนี้บริษัทวางเป้าหมายทางธุรกิจว่าในการมุ่งหวังจะขยายจำนวนผู้ใช้งาน 4-5 ล้านราย และเป็น Top 5 ในธุรกิจด้านการลงทุนและสินทรัพย์ดิจิทัลในอาเซียนภายใน 3 ปี หรือภายในปี 68 ควบคู่ไปกับการเตรียมความพร้อมเพื่อกระจายหุ้นให้กับประชาชนทั่วไป (IPO) และนำบริษัทเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ

อีกทั้งเป็น บล.เดียวในประเทศที่ได้รับใบอนุญาตนายหน้าซื้อขายหลักทรัพย์ และใบอนุญาตซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ควบคู่ไปกับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์อื่นๆ ด้วยความมุ่งมั่นที่จะยกระดับอุตสาหกรรม ส่งมอบบริการทางการเงินการลงทุนที่มีความปลอดภัย โปร่งใส่ และทำงานควบคู่ไปกับหน่วยงานกำกับดูแล เพื่อส่งมอบบริการดีที่สุดให้กับทุกคน โดยการเป็น InnovestX Application ซูเปอร์แอปแรกด้านการลงทุนของเมืองไทยที่รวมทุกสินทรัพย์ในแอปเดียว พร้อมบริการที่ “เข้าใจความต้องการลงนักลงทุน” ในหลากหลายมิติ

สำหรับบริการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล และคริปโทเคอเรนซีที่ให้บริการในแอปพลิเคชั่น InnovestX เป็นครั้งแรกที่สามารถลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัล ร่วมกับสินทรัพย์อื่นๆด้วยแอปเดียว พร้อมเหรียญคุณภาพที่ผ่านการคัดสรรอย่างเข้มข้น จำนวน 21 เหรียญ ได้แก่ BTS, ETH, XLM, SNX, SUSHI, AAVE, AXS, BCH, CHZ, COMP, CRV, DAI, KNC, LINK, MKR, OMG, SAND, UNI, USDC, YFI และ ZRC อีกทั้งยังมีสภาพคล่องสูงสุด (Liquidity) ด้วยการเชื่อมต่อกับ Exchange พันธมิตรชั้นนำ อาทิ FTX, Coinbase และ Bitkub

ทั้งนี้เพื่อให้ทุกคนสามารถเริ่มลงทุนได้ง่ายขึ้น InnovestX ส่งแคมเปญ “Zero Gravity” ครั้งแรกของการปลดล็อกค่าธรรมเนียม ให้นักลงทุนทะยานสู่จักรวาลการลงทุนแบบไร้ขีดจำกัด โดยสามารถเปิดบัญชีฟรี ไม่มีขั้นต่ำ ฟรี ค่าธรรมเนียมบริหารพอร์ตกับบริการ Intelligent Portfolios ค่าธรรมเนียมลงทุนในหุ้นต่างประเทศ 100,000 บาท และค่าสมัครบริการยื่นแบบภาษี W8-BEN และค่าธรรมเนียมการซื้อขายสินทรัพย์ดิจิทัล ได้ตั้งแต่วันนี้-31 ธ.ค.65

อนึ่งก่อนหน้านี้ แหล่งข่าวจากวงการธนาคารพาณิชย์ เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจ” ว่า บริษัท เอสซีบี เอกซ์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCB จะเริ่มเปิดให้บริการซื้อ-ขาย แลกเปลี่ยนเงินดิจิทัล 15-25 สกุล ในวันที่ 12 ก.ย.นี้ เช่น Bitcoin (BTC), Ethereum (ETH), USD Coin(USDC), Axie Infinity(AXS), The Sansbox, และ USD Coin (USDC) โดยทั้งหมดนี้จะดำเนินการภายใต้ “บริษัทหลักทรัพย์ อินโนเวสท์ เอกซ์ จำกัด” ที่ถูกเปลี่ยนชื่อมาจาก บริษัทหลักทรัพย์ ไทยพาณิชย์ จำกัด หรือ SCBS