สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 7 ต.ค. 2565
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 7 ต.ค. 2565
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงอย่างรุนแรงในวันศุกร์ (7 ต.ค.) หลังจากการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐในเดือนก.ย. ทำให้นักลงทุนวิตกว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างมากต่อไป และจะส่งผลให้เศรษฐกิจสหรัฐเข้าสู่ภาวะถดถอย
ทั้งนี้ ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 29,296.79 จุด ร่วงลง 630.15 จุด หรือ -2.11%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,639.66 จุด ร่วงลง 104.86 จุด หรือ -2.80% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,652.40 จุด ร่วงลง 420.91 จุด หรือ -3.80%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลดลงในวันศุกร์ (7 ต.ค.) หลังจากการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐทำให้เกิดความวิตกว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างรุนแรงเพื่อสกัดเงินเฟ้อที่ระดับสูง
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 391.67 จุด ลดลง 4.68 จุด หรือ -1.18% แต่ยังคงปรับตัวขึ้นเกือบ 1% ในรอบสัปดาห์นี้ ซึ่งแข็งแกร่งที่สุดในรอบ 1 เดือน
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดลดลงในวันศุกร์ (7 ต.ค.) โดยหุ้นกลุ่มการเงินและกลุ่มอุตสาหกรรมถ่วงตลาดลง หลังจากการเปิดเผยข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งของสหรัฐบ่งชี้ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างมาก ซึ่งกระตุ้นแรงเทขายหุ้นทั่วโลก
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,991.09 จุด ลดลง 6.18 จุด หรือ -0.09% แต่ปรับตัวขึ้นในรอบสัปดาห์นี้ หลังร่วงลง 3 สัปดาห์ติดต่อกัน
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันศุกร์ (7 ต.ค.) เนื่องจากตลาดยังคงขานรับกลุ่มประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (โอเปก) และชาติพันธมิตร หรือโอเปกพลัส มีมติปรับลดกำลังการผลิตครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 2 ปี
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. พุ่งขึ้น 4.19 ดอลลาร์ หรือ 4.7% ปิดที่ 92.64 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 29 ส.ค. 2565 และในรอบสัปดาห์นี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI พุ่งขึ้น 16.5%
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 3.5 ดอลลาร์ หรือ 3.7% ปิดที่ 97.92 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 30 ส.ค. 2565 และในรอบสัปดาห์นี้ สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ พุ่งขึ้น 15%
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลดลงในวันศุกร์ (7 ต.ค.) โดยถูกกดดันหลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่สูงกว่าคาด ซึ่งจะทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 11.5 ดอลลาร์ หรือ 0.67% ปิดที่ระดับ 1,709.3 ดอลลาร์/ออนซ์ แต่ยังคงปิดบวก 2.2% ในรอบสัปดาห์นี้
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 40.5 เซนต์ หรือ 1.96% ปิดที่ 20.255 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 3.9 ดอลลาร์ หรือ 0.42% ปิดที่ 917.9 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 84.20 ดอลลาร์ หรือ 3.7% ปิดที่ 2,191.30 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันศุกร์ (7 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% เป็นครั้งที่ 4 ในการประชุมเดือนพ.ย. หลังจากสหรัฐเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่สูงกว่าคาด
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.48% แตะที่ระดับ 112.7950
ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยนที่ระดับ 145.34 เยน จากระดับ 145.05 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิสที่ระดับ 0.9949 ฟรังก์ จากระดับ 0.9905 ฟรังก์ แต่ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดาที่ระดับ 1.3725 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3751 ดอลลาร์แคนาดา
ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่ระดับ 0.9737 ดอลลาร์ จากระดับ 0.9798 ดอลลาร์, เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.1076 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1151 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 0.6369 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6408 ดอลลาร์สหรัฐ
ตลาดหุ้นจีนปิดทำการวันศุกร์ (7 ต.ค.) เนื่องในวันชาติ