“บล.พาย” แนะสอย 14 หุ้นเด่นสัปดาห์นี้ ชู TU-ASIAN ลุ้นกำไรไตรมาส 3 โตแกร่ง!
"บล.พาย" ชี้ SET สัปดาห์นี้ “ไซด์เวย์ ดาวน์” กรอบ 1,550-1,575 จุด ก่อนวันหยุดยาว-รอตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐ แนะสอย 14 หุ้นเด่น เน้นส่งออก TU-ASIAN ลุ้นกำไรไตรมาส 3/65 โตแกร่ง!
บริษัทหลักทรัพย์ พาย จำกัด (Pi) ประเมินดัชนีตลาดหุ้นไทย (SET Index) สัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหว Sideway Down ในกรอบ 1,550-1,575 จุด ภาพรวมเต็มไปด้วยปัจจัยลบจากการปรับลงของตลาดหุ้น Dow Jones ในวันศุกร์
ขณะที่ตลาดหุ้นไทยจะเปิดทำการเพียง 3 วันทำการ (จันทร์-พุธ) หลังจากนั้นจะเข้าสู่วันหยุดยาวเปิดทำการอีกทีวันจันทร์ ซึ่งในช่วงพฤหัสบดีจะมีการรายงานตัวเลขสำคัญ อย่างเงินเฟ้อสหรัฐฯประจำเดือนกันยายน Bloomberg Consensus คาดที่ 8.1% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 0.2% เทียบเดือนก่อนหน้า ลดลงจากเดือนก่อนหน้าที่ 8.3% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ผลสำรวจด้านในพบว่าคาดการณ์ CPI จากนักเศรษฐศาสตร์ที่ส่งข้อมูลใน Bloomberg อยู่ในกรอบ 7.9% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ลดลง 8.3% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน
ทั้งนี้หากประกาศออกมาต่ำกว่าตลาดคาด (8.1%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน) ก็มีความเป็นไปได้ที่ตลาดหุ้นจะคลายกังวลกับภาวะเงินเฟ้อและหนุนตลาดหุ้นฟื้นตัวได้ แต่หากออกมาสูงกว่าคาดการณ์ก็เชื่อว่าจะมีผลต่อ Downside ตลาดหุ้นสหรัฐฯบ้างแต่ไม่มากนักด้วยการปรับฐานลงมาจากจุดสูงสุด 20% และปัจจุบันตลาดก็ Price In ดอกเบี้ย FED ในการประชุมเดือน พ.ย. ไปแล้วกว่า 81% ถือว่าสะท้อนไปค่อนข้างเยอะ
ส่วนปัจจัยอื่นๆได้แก่ 1.ดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐฯในวันพุธ Bloomberg คาดที่ 8.4% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน 0.2% เทียบเดือนก่อนหน้า หากประกาศต่ำกว่าคาดก็มองว่าจะเป็นปัจจัยบวกต่อตลาด, 2. FOMC Meeting Minute ในวันพฤหัสบดี
อย่างไรก็ตามมองปัจจัยดังกล่าวมีผลกระทบต่อการลงทุนจำกัดเนื่องจากเป็นผลประชุมที่เกิดขึ้นไปแล้ว เชิงกลยุทธ์การลงทุนค่าเงินบาทมีแนวโน้มกลับมาอ่อนค่าตามที่ตลาดคาดถึงดอกเบี้ยเชิงรุกของ FED อีกครั้งบวกต่อกลุ่มส่งออก อาทิ ASIAN,TU ส่วนกลุ่มอื่นแนะนำกลุ่มน้ำมัน แนะนำ PTTEP และโรงกลั่น ได้แก่ BCP,SPRC,TOP ปัจจัยบวกราคาน้ำมันดิบปรับขึ้น ส่วนอื่นๆแนะนำ Defensive ได้แก่ BCH,CHG ธนาคารพาณิชย์ ได้แก่ BBL,KBANK,SCB นอกจากนี้ยังแนะทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดีที่ราคาปรับลงมาจนระดับ Valuation น่าสนใจ ADVANC,CPALL และ MINT
สำหรับ TU แนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 24.30 บาท คาดว่าผลประกอบการงวดไตรมาส 3/65 ยังเป็นอีกไตรมาสที่ออกมาดีจากปัจจัยบวกเรื่องธุรกิจอาหารสัตว์และอาหารทะเลแปรรูปยังเติบโตดีรวมกับค่าเงินบาทที่อ่อนค่าลง 9% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยคาดกำไรสุทธิที่ 2,039 ล้านบาท โต 5% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และโต 26% เทียบไตรมาสก่อนหน้า
ขณะที่ ASIAN แนะนำซื้อราคาเป้าหมาย 21.40 บาท คาดกำไรมีทิศทางขาขึ้นในครึ่งหลังปี 65 หนุนจากการขยายกำลังการผลิตในธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงที่เพิ่มเป็น 42,000 ตันต่อปี โต 17% เทียบไตรมาสก่อนหน้า ในช่วงปลายครึ่งแรกปี 65 สะท้อนทิศทางการเติบโตของรายได้และ GPM ที่ดีขึ้นในไตรมาส 3/65 ในช่วงที่จะรับรู้กำไรเต็มไตรมาจากกำลังการผลิตใหม่นี้