ลุ้น! ศาลนัดไต่สวนคดี “ผู้ถือหุ้นTRUE” ฟ้องแพ่ง “กสทช.” พรุ่งนี้
ศาลแพ่งนัดไต่สวนคดีผู้ถือหุ้นรายย่อยทรูฟ้อง Class Action บอร์ด กสทช. พรุ่งนี้ หลังพิจารณาควบรวมดีล TRUE-DTAC ล่าช้า ทำเสียหาย 1.6 แสนล้าน
นายเพทาย วัฒนศิริ ทนายความของผู้ถือหุ้นรายย่อยของ บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE เปิดเผยว่า ตามที่ตนได้รับมอบหมายจากผู้ถือหุ้น TRUE เป็นโจทก์ยื่นฟ้องคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคม หรือ กสทช.ทั้งคดีแพ่งและคดีอาญา โดยในส่วนของคดีแพ่งที่ฟ้องแบบกลุ่ม (Calss Action) กรณี กสทช.ควบรวมทรู-ดีแทค ล่าช้า จนความเสียหายกว่า 160,000 ล้านบาท ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของประเทศไทยที่ประชาชนฟ้องหน่วยงานรัฐ โดยได้ยื่นฟ้องบอร์ด กสทช. จำนวน 5 คน ประกอบด้วย นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ,พล.อ.ท.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ ,นางพิรงรอง รามสูต ,นายต่อพงศ์ เสลานนท์ ,นายศุภัช ศุภชลาศัย รวมถึงนายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล เลขาธิการสำนักงาน กสทช. และสำนักงาน กสทช.เป็นจำเลยร่วมกันรวม 7 ราย ในข้อหาละเมิดจงใจปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามกฎหมาย และขอให้ชดใช้ค่าเสียหายนั้น
ล่าสุด ได้รับแจ้งจากศาลแพ่งนัดไต่สวนฯ คดีในวันพรุ่งนี้ (11 ต.ค. 65) ส่วนคดีอาญาฯ ที่ฟ้องบอร์ด กสทช.ปัจจุบัน 5 คนต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ตามมาตรา 157 ฐานปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ข้อหาละเว้นปฏิบัติหน้าที่ ศาลอาญาฯ นัดฟังคำสั่งเกี่ยวกับคดีในวันที่ 26 ตุลาคม 2565 นี้
นายเพทาย ระบุว่า เหตุผลที่ผู้ถือหุ้น TRUE ยื่นฟ้อง เพราะมองว่า ความล่าช้าของ กสทช. ที่ยังไม่พิจารณามีมติรับทราบการรวมธุรกิจ TRUE-DTAC นั้น ไม่มีเหตุผลอันสมควรที่จะล่าช้า เพราะประกาศ กสทช. เกี่ยวกับการรวมธุรกิจกำหนดระยะเวลาไว้ชัดเจนว่า ให้ดำเนินการภายใน 90 วันนับแต่วันที่ผู้ได้รับใบอนุญาตยื่นต่อเลขาธิการ กสทช. ซึ่งกรณีนี้ TRUE-DTAC ได้ยื่นรายงานการรวมธุรกิจต่อเลขาธิการ กสทช.ตั้งแต่วันที่ 25 มกราคา 2565 โดย เลขาธิการ กสทช.ได้เสนอรายงานการรวมธุรกิจฯ ต่อ กสทช. เมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม 2565 พร้อมความเห็นประกอบการรายงานการรวมธุรกิจจากที่ปรึกษาอิสระ ความล่าช้าของ กสทช.ในการมีมติรับทราบการรวมธุรกิจดังกล่าว จึงมีลักษณะจงใจปฏิบัติหน้าที่ให้ผู้ถือหุ้น TRUE ได้รับความเสียหาย หรือละเลยไม่คำนึงถึงประชาชนซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นรายย่อย และก่อให้เกิดมูลค่าความเสียหายที่ประเมินได้กว่า 160,000 ล้านบาท
ขณะเดียวกันเมื่อ 26 กันยายน 2565 ผู้ถือหุ้นรายย่อย TRUE ได้ฟ้อง บอร์ด กสทช. ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง ข้อหาละเว้นปฎิบัติหน้าที่ ผิดมาตรา 157 กรณีพิจารณาควบรวม TRUE-DTAC ล่าช้า ถือเป็นฟางเส้นสุดท้ายที่ทำให้ผู้ถือหุ้นรายย่อยทรูต้องฟ้องถึง 2 ศาล คือ ความล่าช้าและความยืดเยื้อที่ส่งผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นซึ่งเป็นประชาชนเหมือนกัน โดยทางผู้ถือหุ้นรอว่าเมื่อไหร่ กสทช. จะดำเนินการให้เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งถ้าหน่วยงานรัฐก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน ผู้เดือดร้อนที่เสียหายก็ย่อมสามารถฟ้องร้องได้ และถ้ายิ่งยืดเยื้อต่อไป ความเสียหายก็อาจจะเพิ่มขึ้นด้วย
ส่วนกรณีการควบรวมกิจการ TRUE-DTAC นั้น นายเพทาย มองว่า เข้าข่ายการรวมกิจการตามประกาศ กสทช.ปี 2561 ซึ่งออกโดย กสทช.เอง โดยเขียนไว้ชัดเจนไม่ได้มีประกาศฉบับอื่นมาเขียนถึงการรวมกิจการ ตามประกาศฯ ปี 2561 กสทช.มีบทบาทคือรับทราบและสามารถออกเงื่อนไขหรือมาตรการควบคุมได้ นอกจากนี้ กสทช.ก็ได้ใช้เวลาในการพิจารณาตามเหมาะสมไปแล้ว ได้รับผลการศึกษาจากคณะอนุกรรมการทั้ง 4 คณะ รวมถึงผลการศึกษาจากที่ปรึกษาอิสระ และความเห็นจากคณะกรรมการกฤษฎีกา จึงไม่น่าจะเหตุอะไรให้ต้องล่าช้าออกไปอีก