ครม. อัดงบ 5.1 พันลบ. สร้างศูนย์สุขภาพนานาชาติอันดามัน ผลักดันไทย “เมดิคัลฮับ”

ครม. ไฟเขียว สร้าง “ศูนย์สุขภาพนานาชาติอันดามัน” วงเงิน 5.1 พันลบ. หวังผลักดันไทยเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ และศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในอนาคต สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี


นางสาวไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบโครงการศูนย์สุขภาพนานาชาติอันดามัน ซึ่งจะตั้งโครงการอยู่ที่จังหวัดภูเก็ต วงเงินงบประมาณรวมทั้งสิ้น 5,116 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 5 ปี (66-70) โดยขอผูกพันงบประมาณ ดังนี้คือ ปีงบประมาณ 66 วงเงิน 1,291 ล้านบาท, ปี 67 วงเงิน 1,656 ล้านบาท, ปี 68 วงเงิน 1,476 ล้านบาท, ปี 69 วงเงิน 498 ล้านบาท และปี 70 วงเงิน 193 ล้านบาท

สำหรับโครงการศูนย์สุขภาพนานาชาติอันดามันจะเป็นสถานที่ผลิตบุคลากรด้านวิทยาศาสตร์สุขภาพ เช่น แพทย์ พยาบาล ทันตแพทย์ เภสัชกร เทคนิคการแพทย์ แพทย์ทางเลือก และอื่นๆ และเป็นสถานที่ทำการวิจัย พัฒนาด้านวิชาการด้านสาธารณสุข เป็นสถานพยาบาลขั้นตติยภูมิและเฉพาะทางเป็นหลัก โดยสามารถรักษาโรคระดับต้นและโรคซับซ้อน และสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนและนักท่องเที่ยวในการเข้ามาท่องเที่ยวในกลุ่มจังหวัดอันดามันและประเทศไทย

โดยจะมีการพัฒนาทั้งด้านบุคลากร การวิจัยเทคโนโลยีทางการแพทย์จากศูนย์สุขภาพนานาชาติฯ จะมีส่วนสำคัญในการผลักดันประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ (Medical Hub) และศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในอนาคต สร้างรายได้แก่ประเทศสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปีอีกด้วย

ทั้งนี้ผลที่คาดว่าจะได้รับจากโครงการ คือ มีศูนย์การแพทย์เฉพาะทางขนาด 300 เตียง, ให้บริการผู้ป่วยโรคซับซ้อนชาวไทยไม่น้อยกว่า 12,500 คน/ปี, ผู้ป่วยนอกไม่น้อยกว่า 300,000 คน/ปี, มีรายได้จากการรักษาชาวต่างชาติไม่น้อยกว่า 1,600 ล้านบาท/ปี, มีศูนย์ทันตกรรมที่ทันสมัยแห่งแรกในภาคใต้และมีรายได้จากการให้บริการชาวต่างชาติไม่น้อยกว่า 300 ล้านบาท/ปี

โดยศูนย์ดังกล่าวสามารถผลิตบุคลากรด้านสาธารณสุขและวิทยาศาสตร์สุขภาพที่สำเร็จตามหลักสูตรปีละ 110 คน, อบรมทักษะต่างๆ ตามความต้องการของภาครัฐและเอกชนในพื้นที่ไม่น้อยกว่า 1,000 คน/ปี, ลดการไปรักษาโรคซับซ้อนในพื้นที่อื่นของคนในพื้นที่อันดามันไม่น้อยกว่า 13,500 ครั้ง/ปี ทำให้ประหยัดเงินไม่น้อยกว่า 135 ล้านบาท/ปี และเพิ่มมูลค่าการท่องเที่ยวในพื้นที่อันดามันให้เป็นการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพมากขึ้นไม่น้อยกว่า 10% ของมูลค่าเดิมหรือเพิ่มขึ้นประมาณ 62,000 ล้านบาท/ปี

Back to top button