TISCO กำไรไตรมาส 3 โต 14% เฉียด 1.8 พันลบ. หนุน 9 เดือนทะลัก 5.4 พันลบ.

บริษัท ทิสโก้ไฟแนนเชียลกรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TISCO รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/65 และงวด 9 เดือนแรกของปี 65 มีกำไรสุทธิ ดังนี้

โดยกำไรสุทธิสำหรับผลประกอบการงวดไตรมาส 3 ปี 2565ของบริษัทมีจำนวน 1,771.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 211.00 ล้าน บาท หรือร้อยละ 13.5 เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปี 2564 ตามการฟื้นตัวของธุรกิจหลัก โดยเงินให้สินเชื่อกลับมาเติบโตได้ร้อยละ 4.8 จากไตรมาสก่อนหน้า จากสินเชื่อธุรกิจ สินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) และสินเชื่อจำนำทะเบียนเป็นหลัก ส่งผลให้รายได้ดอกเบี้ยสุทธิปรับตัวดีขึ้นร้อยละ 4.2 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อนหน้า

ประกอบกับรายได้ค่าธรรมเนียม ธุรกิจนายหน้าประกันภัยฟื้นตัวอย่างแข็งแกร่งที่ร้อยละ 44.3 สอดคล้องกับปริมาณการปล่อยสินเชื่อใหม่ที่ขยายตัวตามการฟื้น ตัวของเศรษฐกิจไทย ทั้งนี้ รายได้ค่าธรรมเนียมธุรกิจธนาคารพาณิชย์ปรับเพิ่มขึ้นร้อยละ 27.7 ในขณะที่รายได้ค่าธรรมเนียมจาก ธุรกิจที่เกี่ยวกับตลาดทุนยังคงอ่อนตัวลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

ทั้งรายได้ค่านายหน้าการซื้อขายหลักทรัพย์ชะลอตัวลง ร้อยละ 15.1 ตามปริมาณการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ที่ลดลง และรายได้ค่าธรรมเนียมพื้นฐานจากธุรกิจจัดการกองทุนลดลง ร้อยละ 0.9จากการกองออกทุนใหม่ที่ลดลงในสภาวะตลาดทุนที่ไม่เอื้ออำนวย

สำหรับผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (ECL) ยังคงอยู่ในระดับต่ำที่ร้อยละ 0.2 ของยอดสินเชื่อเฉลี่ย ซึ่งได้พิจารณารวมถึงการเติบโตของพอร์ตสินเชื่อ และเป็นไปตามคุณภาพสินทรัพย์ที่สามารถควบคุมได้อย่างมีประสิทธิภาพ ด้วยระดับสินเชื่อที่มีการด้อยค่าด้านเครดิตต่อสินเชื่อรวม (NPL Ratio) ลดลงมาอยู่ที่ร้อยละ 2.08ของสินเชื่อรวม อีกทั้ง บริษัทยังคงลดระดับการตั้งสำรองลงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ที่คลี่คลายไปในทิศทางที่ดีขึ้น ทั้งนี้ ระดับค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (Coverage Ratio) ยังคงแข็งแกร่งที่ร้อยละ 248.0

ส่วนกำไรต่อหุ้นขั้นพื้นฐาน (Basic earnings per share) สำหรับไตรมาส 3 ปี 65 เท่ากับ 2.21 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้นจาก 1.95 บาทต่อหุ้นในไตรมาส 3 ปี 64 แต่ลดลงจาก 2.31 บาทต่อหุ้นไตรมาส 2 ปี 65 ส่วนอัตราผลตอบแทนต่อผู้ถือหุ้นเฉลี่ย (ROAE) อยู่ที่ร้อยละ 17.7