ผู้ถือหุ้น BE8 โหวตผ่านซื้อกิจการ “เบย์คอม” มั่นใจดันรายได้นิวไฮต่อ
ผู้ถือหุ้น BE8 ไฟเขียวซื้อกิจการ “เบย์คอม” ครบ 100% พร้อมไฟเขียวออกหุ้นเพิ่มทุน 26.05 ล้านหุ้น รองรับการซื้อกิจการ คาดรับรู้รายได้ไตรมาส 1/66 มั่นใจดันรายได้นิวไฮต่อ
นายอภิเษก เทวินทรภักติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เบริล 8 พลัส จำกัด (มหาชน) หรือ BE8 เปิดเผยว่า ในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นเมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2565 ผู้ถือหุ้นได้มีมติอนุมัติให้บริษัทฯ เข้าซื้อกิจการบริษัท เบย์ คอมพิวติ้ง จำกัด (เบย์คอม) ซึ่งเป็นผู้นำ Cyber Security อันดับต้นๆ ของประเทศ โดยเข้าทำรายการซื้อหุ้นสามัญเบย์คอม เต็มจำนวน 80,000 หุ้น หรือคิดเป็น 100% ของทุนจดทะเบียน
“หลังผู้ถือหุ้นไฟเขียว กระบวนการควบรวมกิจการเบย์คอม น่าจะเสร็จสมบูรณ์ในต้นปีหน้า และคาดว่าจะเริ่มบันทึกรายได้ตั้งแต่ไตรมาส1/2566 โดยผลักดันภาพรวมรายได้ของ BE8 เติบโตก้าวกระโดด มีโอกาสทำนิวไฮต่อเนื่อง” นายอภิเษก กล่าว
สำหรับการเข้าซื้อหุ้นสามัญ บริษัทเบย์ คอมพิวติ้ง จำกัด สัดส่วน 100% ของทุนจดทะเบียน บริษัทฯ จะแบ่งการชำระค่าหุ้นออกเป็น 2 ส่วน โดยส่วนแรกบริษัทฯ จะออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวน 26.05 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 10.83% ของทุนชำระแล้วของบริษัทฯ ให้กับ บริษัท คีย์เมกเกอร์ เวนเจอร์ แคปปิตอล จำกัด (Holding) เพื่อเป็นการชำระค่าหุ้นเบย์คอมจำนวน 68,800 หุ้น โดยกำหนดราคาหุ้นละ 47.60 บาท หรือคิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 1,239.9 ล้านบาท และส่วนที่ 2 จะชำระค่าหุ้นเบย์คอมจำนวน 11,200 หุ้น เป็นเงินสด 200 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่ารวมในการซื้อกิจการทั้งหมด 1,439.99 ล้านบาท
นอกจากนี้ที่ประชุมผู้ถือหุ้น ยังมีมติอนุมัติให้เพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทฯ จากทุนจดทะเบียน 107.29 ล้านบาท เป็นทุนจดทะเบียน 120.32 ล้านบาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุน 26.05 ล้านหุ้น พาร์ 0.50 บาท เพื่อชำระเป็นค่าตอบแทนในการรับโอนกิจการทั้งหมด ซึ่งได้แก่ หุ้นสามัญบริษัทเบย์คอม จำนวน 68,800 หุ้น ภายหลังจากกระบวนการซื้อกิจการแล้วเสร็จ ผู้ถือหุ้นเดิมของเบย์คอม จะเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทฯ จำนวน 26.05 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น 10.83% ของทุนชำระแล้วของบริษัท
สำหรับ BE8 เป็นบริษัทฯ ที่ให้บริการ Digital Transformation แบบครบวงจร จำเป็นต้องมี Cyber Security เพื่อให้ความเชื่อมั่นและความปลอดภัยกับผู้ใช้งาน โดยเฉพาะลูกค้าที่ต้องให้ข้อมูลส่วนบุคคลต่างๆ ไว้กับองค์กรธุรกิจ ยิ่งทุกองค์กรทำ Digital Transformation มากขึ้น และมีการ Digitalize ข้อมูลมากขึ้น เพื่อให้ตอบสนองกับพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนไป ทำให้ Cyber security ยิ่งสำคัญมากขึ้น ทุกๆ องค์กรในยุคนี้ต้องการ Cyber security จากสถิติพบว่ากว่า 82% ขององค์กรที่ทำ Digital Transformation จะถูกโจมตีและขโมยข้อมูลไม่น้อยกว่า 1 ครั้ง
ทั้งนี้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของ BE8 ที่ต้องการสร้างบริการให้ครบวงจร หรือที่เรียกว่า Digital Transformation Ecosystem ต้องการเพิ่มขีดความสามารถในการบริการ ให้ตอบโจทย์ความต้องการขององค์กรธุรกิจในทุกๆ มิติของการทำ Digital Transformation และในวันนี้บริษัทได้เพิ่มบริการและความเชี่ยวชาญในหลายด้าน ซึ่งรวมถึงในด้านของ Cyber Security ด้วย ทำให้มั่นใจว่าจะก้าวเป็นผู้นำอุตสาหกรรมในระดับภูมิภาคได้อย่างแน่นอน
โดยแนวโน้มของธุรกิจ Cyber Security เป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มเติบโตสูง เนื่องจากพฤติกรรมของลูกค้าองค์กรได้เปลี่ยนไปอยู่บนระบบ Digital มากขึ้น ทำให้มีความเสี่ยงของการโดนโจรกรรมข้อมูลทางไซเบอร์เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ส่งผลให้ทุกองค์กรมีความตื่นตัวในการรักษาความปลอดภัย Cyber Security เพื่อให้ธุรกิจดำเนินการได้อย่างราบรื่นและสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า ขณะที่ภาครัฐได้เร่งผลักดันให้องค์กรธุรกิจต่างๆ มีมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยในด้าน Cyber Security มากขึ้น โดยได้ออกกฎหมายทั้ง พ.ร.บ.ไซเบอร์และพ.ร.บ.คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPA) ทำให้ทุกองค์กรยิ่งให้ความสำคัญมากขึ้น
ขณะเดียวกันการโจมตีทางโลก Cyber ในปัจจุบันมีความรวดเร็ว และซับซ้อนมากขึ้นตลอดเวลา องค์กรขนาดใหญ่ระดับโลก เช่น Marriott และ Uber ต่างก็ถูกโจมตีสำเร็จหลายครั้งตลอดหลายปีที่ผ่านมา จึงทำให้ทุกองค์กรต่างก็ให้ความสำคัญกับ Cyber Security มีการปรับปรุงและการลงทุนด้าน Cyber Security อย่างต่อเนื่อง รวมถึงยังเป็นสาขาของเทคโนโลยีสารสนเทศที่หลายองค์กรยังขาดทั้งความเข้าใจและบุคลากร จึงเป็นโอกาสในการเติบโตที่สูง