AGE มั่นใจรายได้ปี 66 ทะลุ 2 หมื่นลบ. รับดีมานด์ “ถ่านหิน” พุ่ง

นายพนม ควรสถาพร ประธานกรรมการบริหาร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอเชีย กรีน เอนเนอจี จำกัด (มหาชน) หรือ AGE เปิดเผยว่า บริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 66 เติบโตขึ้นไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านบาท โดยคาดว่าจะได้รับปัจจัยหนุนจากราคาถ่านหินที่ยังทรงตัวอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่องตามความต้องการที่เพิ่มขึ้นจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ รวมถึงสถานการณ์ความขัดแย้งระหว่างยูเครนและรัสเซียที่ยังคงส่งผลกระทบต่อราคาก๊าซและราคาน้ำมันที่ยังทรงตัวในระดับสูง

โดยปัจจุบันราคาถ่านหินอยู่ที่ประมาณ 380 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน โดยคาดว่าในช่วงไตรมาส 4/65 มีโอกาสทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้ง

“ราคาถ่านหินยังคงทรงตัวอยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง ซึ่งได้รับปัจจัยหนุนจากราคาพลังงานอื่นๆที่ปรับตัวสูงขึ้น และ ปัจจุบันเริ่มเข้าสู่ฤดูหนาวที่ทำให้ความต้องการใช้พลังงานเพิ่มสูงขึ้น อาจจะผลักดันให้ราคาถ่านหินในช่วงปลายปีมีโอกาสที่จะสูงขึ้นทำสถิติสูงสุดใหม่อีกครั้งได้” นายพนม กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทยังมีรายได้จากธุรกิจให้บริการโลจิสติกส์ที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันบริษัทยังเดินหน้ารุกธุรกิจใหม่คือ ส่งออกสินค้าเกษตร โดยปัจจุบันเริ่มมีการจำหน่ายมันสำปะหลังแล้ว และคาดว่าในปี 66 จะสร้างรายได้ราว 1,000 ล้านบาท

นอกจากนี้ บริษัทยังได้รุกธุรกิจปล่อยสินเชื่อ (ลิสซิ่ง) ให้กับพนักงานขับรถพ่วงของบริษัท เพื่อให้พนักงานมีโอกาสเป็นเจ้าของรถ โดยปีนี้ตั้งเป็นปล่อยสินเชื่อดังกล่าว 50 ล้านบาท หรือประมาณ 12 คัน และในปี 66 คาดว่าจะขยายเพิ่มอีก 200 ล้านบาท โดยจากการศึกษาและตรวจสอบข้อมูลจากธุรกิจดังกล่าว พบว่าไม่จำเป็นต้องขอใบอนุญาตจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เพราะเป็นการปล่อยสินเชื่อในวงจำกัด และมีอัตราดอกเบี้ยไม่เกินกว่าที่ ธปท.กำหนด

ส่วนสถานการณ์เงินบาทที่อ่อนค่านั้น ส่งผลให้ต้นทุนการดำเนินงานของบริษัทปรับตัวสูงขึ้น แต่เนื่องจากบริษัทมีการบริหารจัดการความเสี่ยง รวมถึงการทำสัญญาซื้อขายเป็นระยะสั้น เพียง 2-3 เดือน และการปรับราคาสินค้าตามสถานการณ์ ทำให้ได้รับผลกระทบไม่มากนัก

สำหรับทิศทางผลประกอบการในช่วงไตรมาส 4/65 คาดว่าจะสามารถเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยได้รับแรงสนับสนุนจากราคาถ่านหินที่ทรงตัวอยู่ในระดับสูง และมีโอกาสปรับเพิ่มขึ้นอีก ขณะที่ธุรกิจใหม่ๆ เริ่มรับรู้รายได้เข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทมั่นใจว่ารายได้ในปีนี้จะเติบโตได้ตามเป้าหมายที่ 18,000 ล้านบาท และอัตรากำไรสุทธิเฉลี่ยทั้งปีจะอยู่ใกล้เคียงกับช่วงครึ่งปีแรกที่ 7.6%

นายพนม กล่าวเพิ่มเติมว่า การดำเนินธุรกิจแบบรักสิ่งแวดล้อม และการเติบโตอย่างยั่งยืนนั้น บริษัทได้หารือกับ บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ในการนำเรือไฟฟ้ามาใช้ขนส่ง ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษาร่วมกัน หากมีความชัดเจนจะมีการแจ้งให้ทราบอีกครั้ง