“โนมูระ” คัด 12 หุ้น Domestic ลุ้นกำไรไตรมาส 3 โต รับกำลังซื้อฟื้นตัว

“นายกรภัทร วรเชษฐ์” แนะเก็งกำไรหุ้นที่มีโอกาสประกาศงบไตรมาส 3/65 ออกมาเติบโต ขานรับกำลังซื้อในประเทศที่เริ่มฟื้นตัว


ตลอดสัปดาห์นี้เป็นช่วงการประกาศผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนหลายแห่ง ประกอบกับช่วงปลายเดือนราว 28 ต.ค. 65 นี้ จะมีงาน mai FORUM 2022 มหกรรมรวมพลังคน mai ครั้งที่ 7 ซึ่งเป็นอีกงานที่สะท้อนมุมมองของบริษัทจดทะเบียน และนักวิเคราะห์หลักทรัพย์เกี่ยวกับภาพการเติบโตของตลาดหุ้นไทย โดยเฉพาะหุ้นขนาดกลางและขนาดเล็ก รวมทั้งเศรษฐกิจไทยโดยภาพรวม ซึ่งนักวิเคราะห์ประเมินผลกำไรไตรมาสที่ 3 ต่อเนื่องจนถึงปลายปี 65 นี้ กำไรบริษัทจดทะเบียนหลายบริษัทโดยเฉพาะหุ้นขนาดกลาง มีโอกาสฟื้นตัวรับกำลังซื้อในประเทศ

ด้าน นายกรภัทร วรเชษฐ์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยและบริการการลงทุน บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ประเมินจากตัวเลขเงินเฟ้อสหรัฐที่ออกมาล่าสุด ซึ่งนักลงทุนผิดหวังที่เงินเฟ้อยังลดลงช้ากว่าคาด โดย Nomura คาดว่าเมื่อถึงการรายงานเงินเฟ้อ ต.ค. 65 น่าจะเห็นการลดระดับลงอย่างมีนัยสำคัญจากฐานสูงปีก่อน ส่วนการประชุมสมัชชาใหญ่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ครั้งที่ 20 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 16 -22 ต.ค.65 ทาง Nomura คาดว่าจีนจะคงนโยบายปลอดโควิดจนถึงเดือน มี.ค.66 และจะผ่อนคลายอย่างช้าๆ หลังจากนั้นหากมีสัญญาณผ่อนคลายบางส่วนออกมา คาดจะหนุนตลาดหุ้นเอเชีย โดยคาดระยะกลาง SET มีโอกาสฟื้นสู่เป้าหมายปลายปีที่ 1,690 จุด

ส่วนทิศทางกำไรของตลาดหุ้นไทยไตรมาส 3 แม้กลุ่มพลังงานจะมีฐานกำไรที่อยู่ในระดับสูง และเป็นตัวประคองกำไรรวมหลัก แต่ผลประกอบการพ้นจุดที่ดีที่สุดไปแล้ว ขณะที่กำไรกลุ่ม Domestic ในประเทศเริ่มฟื้นตัวต่อเนื่อง ไล่เรียงตั้งแต่ ธนาคาร กลุ่มการบริโภค หรือหุ้นที่เติบโตจากภายใน ทำให้การลงทุนหลัก ควร Switch มาเน้นกลุ่มนี้มากขึ้น

ขณะที่กลยุทธ์การลงทุน Nomura แนะนำพอร์ตการลงทุนระยะยาว ถือหุ้น 70% ตราสารหนี้ 15% ทองคำ 5% และเงินสดหรือ Money Market Fund 10% SET กลับมาอยู่ในโซนเหมาะกับการลงทุนระยะยาว 1,570-1,540 จุด ด้วย Earnings Yield Gap 3.6% (vs avg. 3.0%) เป็นโอกาสสะสมหุ้น Domestic Play

โดยมี Theme เด่น คือ กลุ่มการบริโภคในประเทศ (ธนาคาร-ประกัน, ค้าปลีก, สื่อสาร), Anti-Commodity หุ้นแนะนำ ได้แก่ SCB (ราคาเป้าหมาย 155 บาท), BBL (ราคาเป้าหมาย 175 บาท), TLI (ราคาเป้าหมาย 20.1 บาท), MAKRO (ราคาเป้าหมาย 41 บาท), BJC (ราคาเป้าหมาย 41 บาท), CRC (ราคาเป้าหมาย 48 บาท), ICHI (ราคาเป้าหมาย 11.7 บาท), BE8 (ราคาเป้าหมาย 100 บาท), BEC (ราคาเป้าหมาย 14.6 บาท), ERW (ราคาเป้าหมาย 4.5 บาท), SCGP (ราคาเป้าหมาย 70 บาท) และ GPSC (ราคาเป้าหมาย 90 บาท)

Back to top button