สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 18 ต.ค. 2565

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 18 ต.ค. 2565


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นติดต่อกันเป็นวันที่ 2 ในวันอังคาร (18 ต.ค.) ขานรับผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียน ซึ่งรวมถึงโกลด์แมน แซคส์ และจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากการผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐที่ขยายตัวได้ดีเกินคาด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 30,523.80 จุด เพิ่มขึ้น 337.98 จุด หรือ +1.12%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,719.98 จุด เพิ่มขึ้น 42.03 จุด หรือ +1.14% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,772.40 จุด เพิ่มขึ้น 96.60 จุด หรือ +0.90%

ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันอังคาร (18 ต.ค.) เป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน โดยยังคงได้แรงหนุนจากการเปลี่ยนแปลงแผนการคลังของอังกฤษ ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนต่าง ๆ เพื่อประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจ และบางบริษัทเปิดเผยผลกำไรและรายได้ที่แข็งแกร่ง

ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 399.84 จุด เพิ่มขึ้น 1.36 จุด หรือ +0.34%

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,067.00 จุด เพิ่มขึ้น 26.34 จุด หรือ +0.44%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 12,765.61 จุด เพิ่มขึ้น 116.58 จุด หรือ +0.92% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,936.74 จุด เพิ่มขึ้น 16.50 จุด หรือ +0.24%

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันอังคาร (18 ต.ค.) เป็นวันที่ 4 ติดต่อกัน โดยได้แรงหนุนจากการที่รัฐบาลอังกฤษยกเลิกมาตรการปรับลดภาษีซึ่งสร้างความปั่นป่วนให้กับตลาดการเงินก่อนหน้านี้ ขณะที่ความเชื่อมั่นเกี่ยวกับการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนได้ช่วยหนุนตลาดด้วย

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,936.74 จุด เพิ่มขึ้น 16.50 จุด หรือ +0.24%

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 3% ในวันอังคาร (18 ต.ค.) หลังมีรายงานว่าสหรัฐเตรียมระบายน้ำมันจากคลังสำรองทางยุทธศาสตร์ (SPR) เพื่อสกัดการพุ่งขึ้นของราคาน้ำมัน นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการคาดการณ์ที่ว่าสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐจะเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่สอง และความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจจีน

ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. ลดลง 2.64 ดอลลาร์ หรือ 3.1% ปิดที่ 82.82 ดอลลาร์/บาร์เรล

ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 1.59 ดอลลาร์ หรือ 1.7% ปิดที่ 90.03 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดลบในวันอังคาร (18 ต.ค.) โดยตลาดถูกกดดันจากการแข็งค่าของดอลลาร์ และความกังวลเกี่ยวกับการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด)

ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 8.2 ดอลลาร์ หรือ 0.49% ปิดที่ 1,655.8 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 11.9 เซนต์ หรือ 0.64% ปิดที่ 18.6 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 6.3 ดอลลาร์ หรือ 0.69% ปิดที่ 907.3 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 14 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ 2,013.90 ดอลลาร์/ออนซ์

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันอังคาร (18 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.75% ทั้งในเดือนพ.ย.และธ.ค.

ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน เพิ่มขึ้น 0.09% แตะที่ 112.1310

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 149.19 เยน จากระดับ 148.89 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3780 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3721 ดอลลาร์แคนาดา แต่ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9951 ฟรังก์ จากระดับ 0.9957 ฟรังก์

ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 0.9853 ดอลลาร์ จากระดับ 0.9850 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.1317 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1363 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นสู่ระดับ 0.6295 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6294 ดอลลาร์สหรัฐ

Back to top button