“ครม.” ไฟเขียวต่างชาติรายได้สูง ซื้อบ้าน-ที่ดิน 1 ไร่ เงินลงทุน 40 ล้าน

“ครม.” เปิดทางต่างชาติที่มีรายได้สูง สามารถใช้เงินลงทุนต้องไม่ต่ำกว่า 40 ลบ. ซื้อที่ดินไม่เกิน 1 ไร่ และดำรงทุนการลงทุนไว้ไม่น้อยกว่า 3 ปี นับแต่วันยื่นคำขอ ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย


พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ขอความเห็นชอบให้กระทรวงมหาดไทย (มท.) นำเสนอคณะรัฐมนตรี (ครม.) อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการได้มาซึ่งที่ดิน เพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างด้าว ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูด คนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย พ.ศ…. ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ ให้กลุ่มคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูง 4 ประเภท ได้แก่ 1. กลุ่มประชากรโลกผู้มีความมั่งคั่งสูง 2. กลุ่มผู้เกษียณอายุจากต่างประเทศ 3. กลุ่มที่ต้องการทำงานจากประเทศไทย และ 4. กลุ่มผู้มีทักษะ เชี่ยวชาญพิเศษ มีสิทธิขอได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัย ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการลงทุนโดยการดึงดูดคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย

ทั้งนี้ กำหนดจำนวนเนื้อที่ไม่เกิน 1 ไร่มาตรา 63 ทวิแห่งประมวลกฎหมายที่ดิน จำนวนเงินลงทุนและระยะเวลาการดำรงทุนต้องไม่ต่ำกว่า 40 ล้านบาท และดำรงทุนการลงทุนไว้ไม่น้อยกว่า 3 ปี นับแต่วันยื่นคำขอ (กฎกระทรวงฯ พ.ศ. 2565 กำหนด 5 ปี ให้นับมูลค่าการลงทุน ณ วันที่ยื่นคำขอ

โดยมีสาระสำคัญ คือ กำหนดประเภทของคนต่างด้าวที่สามารถขอได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัย สาระสำคัญ คนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรตามประกาศ กระทรวงมหาดไทย เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวบางจำพวกเข้ามาอยู่ ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย ลงวันที่ 25 พฤษภาคม 2565 โดยไม่รวมผู้ติดตามของคนต่างด้าวดังกล่าว

สำหรับคนต่างด้าวต้องลงทุนในธุรกิจหรือกิจการประเภทหนึ่งประเภทใด หรือหลายประเภทรวมกัน ดังนี้ 1. การซื้อพันธบัตรรัฐบาลไทย พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ หรือพันธบัตรที่กระทรวงการคลังค้ำประกันต้นเงิน หรือดอกเบี้ย

  1. การลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมโครงสร้าง พื้นฐาน กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เพื่อแก้ไขปัญหาในระบบสถาบันการเงิน หรือกองทุนรวมเพื่อแก้ไขปัญหาในระบบสถาบันการเงินที่จัดตั้งขึ้นตาม กฎหมายว่าด้วยหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (เพิ่มกองทุนรวมโครงสร้าง พื้นฐานจากกฎกระทรวงฯ พ.ศ. 2555)
  2. การลงทุนในกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ที่จัดตั้งขึ้น ตามกฎหมายว่าด้วยทรัสต์เพื่อธุรกรรมในตลาดทุน (เพิ่มขึ้นใหม่จาก กฎกระทรวงฯ พศ. 2555)
  3. การลงทุนในทุนเรือนหุ้นของนิติบุคคลที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน
  4. การลงทุนในกิจการที่คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนได้ประกาศ ให้เป็นกิจการที่สามารถขอรับ การส่งเสริมการลงทุนได้ตามกฎหมายว่าด้วยการส่งเสริมการลงทุน

สำหรับกรณีมีการจำหน่ายที่ดินทั้งหมดหรือบางส่วนก่อนครบกำหนดจำนวน 1 ไร่ ให้นำจำนวนที่ดินในส่วนที่ได้จำหน่ายไปแล้วมารวมกับสิทธิที่จะได้มา ซึ่งที่ดินตามกฎกระทรวงนี้ด้วย ส่วนกรณีที่ได้มาซึ่งที่ดินครบจำนวน 1 ไร่แล้ว ต่อมาได้จำหน่ายที่ดินทั้งหมด หรือบางส่วนไป สิทธิที่จะได้มาซึ่งที่ดินตามกฎกระทรวงนี้เป็นอันระงับไป

ส่วนการขอได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยต้องมีหนังสือรับรองประเภท ธุรกิจหรือกิจการที่ได้มีการลงทุนจากหน่วยงาน ดังนี้ 1. การลงทุนพันธบัตรรัฐบาลไทย พันธบัตรธนาคารแห่งประเทศไทย พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ หรือพันธบัตรที่กระทรวงการคลังค้ำประกันต้นเงิน หรือดอกเบี้ย ให้ธนาคารแห่งประเทศไทย กระทรวงการคลัง หรือหน่วยงานผู้ออกพันธบัตร เป็นผู้ออกหนังสือรับรอง

  1. การลงทุนในกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ กองทุนรวมโครงสร้าง พื้นฐาน กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์เพื่อแก้ไขปัญหาในระบบสถาบันการเงิน กองทุนรวมเพื่อแก้ไขปัญหาในระบบสถาบันการเงิน หรือกองทรัสต์ เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ ให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับ หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ เป็นผู้ออกหนังสือรับรอง 3. การลงทุนในทุนเรือนหุ้นของนิติบุคคลที่ได้รับการส่งเสริมการลงทุน หรือการลงทุนในกิจการที่คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนได้ประกาศให้เป็น กิจการที่สามารถขอรับการส่งเสริมการลงทุนได้ ให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (สกท.) เป็นผู้ออกหนังสือรับรอง

นอกจากนี้ ในส่วนของการกําหนดเขตพื้นที่ จะต้องอยู่ภายในเขตกรุงเทพมหานคร เขตเมืองพัทยา หรือเขตเทศบาล หรืออยู่ภายในบริเวณที่กําหนดเป็นเขตที่อยู่อาศัยตามกฎหมายว่าด้วย การผังเมือง และต้องอยู่นอกเขตปลอดภัยในราชการทหารตามกฎหมาย ว่าด้วยเขตปลอดภัยในราชการทหาร โดยให้ยื่นคำขอและเอกสารหลักฐานตามแบบแนบท้ายกฎกระทรวงฯ เมื่อเห็นว่าเป็นเอกสารที่ถูกต้อง ให้ส่งเอกสารหลักฐานที่เกี่ยวข้องไปยังอธิบดีกรมที่ดินเพื่อพิจารณาเสนอรัฐมนตรีต่อไป

อีกทั้ง ยังต้องใช้ที่ดินนั้นเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยสำหรับตนเอง โดยไม่ขัดต่อศีลธรรม จารีตประเพณี หรือวิถีชีวิตอันดีของชุมชนในท้องถิ่นนั้น ซึ่งผู้ได้รับอนุญาตต้องแจ้งการใช้ที่ดินนั้นเพื่อเป็นที่อยู่อาศัยให้พนักงาน เจ้าหน้าที่ทราบภายใน 50 วันนับแต่วันเริ่มใช้ที่ดินนั้น และผู้ได้รับอนุญาตถอนการลงทุนในธุรกิจหรือกิจการก่อนครบกำหนดเวลา การดำรงทุน ต้องแจ้งเป็นหนังสือให้พนักงานเจ้าหน้าที่ทราบภายใน 60 วัน นับแต่วันที่ถอนการลงทุน โดยมีระยะเวลาบังคับใช้ 5 ปี นับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา

Back to top button