สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 26 ต.ค. 2565
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 26 ต.ค. 2565
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดบวกเพียงเล็กน้อยในวันพุธ (26 ต.ค.) ขณะที่ดัชนี Nasdaq ร่วงลงกว่า 2% หลังจากบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่อย่างไมโครซอฟท์และอัลฟาเบทเปิดเผยผลประกอบการที่อ่อนแอ ซึ่งทำให้ตลาดวิตกกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจโลกชะลอตัว ขณะที่นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 3 ของสหรัฐในวันนี้
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 31,839.11 จุด เพิ่มขึ้น 2.37 จุด หรือ +0.01%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,830.60 จุด ลดลง 28.51 จุด หรือ -0.74% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 10,970.99 จุด ร่วงลง 228.12 จุด หรือ -2.04%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกในวันพุธ (26 ต.ค.) แตะระดับสูงสุดในรอบ 5 สัปดาห์ หลังจากธนาคารกลางแคนาดา (BoC) ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยน้อยกว่าคาด ซึ่งทำให้เกิดความหวังว่า ธนาคารกลางรายใหญ่ ๆ อาจจะชะลออัตราการปรับขึ้นดอกเบี้ยด้วย
ทั้งนี้ ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 410.31 จุด เพิ่มขึ้น 2.70 จุด หรือ +0.66%
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 6,276.31 จุด เพิ่มขึ้น 25.76 จุด หรือ +0.41%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนีปิดที่ 13,195.81 จุด เพิ่มขึ้น 142.85 จุด หรือ +1.09% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,056.07 จุด เพิ่มขึ้น 42.59 จุด หรือ +0.61%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดบวกในวันพุธ (26 ต.ค.) แตะระดับสูงสุดในรอบ 3 สัปดาห์ โดยได้แรงหนุนจากความหวังว่า ธนาคารกลางรายใหญ่ ๆ อาจจะชะลออัตราการปรับขึ้นดอกเบี้ย ขณะที่รายงานข่าวที่ว่า นายริชี ซูนัค นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษจะเลื่อนการเปิดเผยงบประมาณนั้น แทบไม่ได้ส่งผลกระทบต่อนักลงทุน
ทั้งนี้ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,056.07 จุด เพิ่มขึ้น 42.59 จุด หรือ +0.61%
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นในวันพุธ (26 ต.ค.) โดยปัจจัยบวกจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์, การลดลงของสต็อกน้ำมันเบนซินสหรัฐ และการส่งออกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์
ทั้งนี้ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.59 ดอลลาร์ หรือ 3% ปิดที่ 87.91 ดอลลาร์/บาร์เรล
ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 2.17 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 95.69 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบเกือบ 2 สัปดาห์ในวันพุธ (26 ต.ค.) โดยได้แรงหนุนจากอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์และการร่วงลงของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐ
ทั้งนี้ สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 11.2 ดอลลาร์ หรือ 0.68% ปิดที่ 1,669.2 ดอลลาร์/ออนซ์ ซึ่งเป็นระดับปิดสูงสุดนับตั้งแต่วันที่ 13 ต.ค. 2565
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 13.7 เซนต์ หรือ 0.71% ปิดที่ 19.486 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 42.8 ดอลลาร์ หรือ 4.65% ปิดที่ 962.5 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 41.70 ดอลลาร์ หรือ 2.2% ปิดที่ 1,960.50 ดอลลาร์/ออนซ์
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันพุธ (26 ต.ค.) หลังจากอัตราผลตอบแทนพันธบัตรสหรัฐปรับตัวลง นอกจากนี้ ดอลลาร์ยังถูกกดดันจากกระแสคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะชะลอการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
ทั้งนี้ ดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงิน ลดลง 1.13% แตะที่ระดับ 109.7010
ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 146.30 เยน จากระดับ 147.98 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9865 ฟรังก์ จากระดับ 0.9958 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลลาร์สหรัฐยังอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.3570 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3621 ดอลลาร์แคนาดา และอ่อนค่าเมื่อเทียบกับโครนาสวีเดน ที่ระดับ 10.8675 โครนา จากระดับ 10.9751 โครนา
ยูโรแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.0084 ดอลลาร์ จากระดับ 0.9961 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะที่ระดับ 1.1626 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1472 ดอลลาร์
ตลาดหุ้นอินเดียปิดทำการซื้อขายวานนี้ (26 ต.ค.) เนื่องในเทศกาลดิวาลี (Diwali)