กกพ. สั่งหยุดเครื่อง “วะตะแบก วินด์” หลังต้น “กังหันลม” หักโค่น
กกพ. สั่งหยุดเดินเครื่อง "วะตะแบก วินด์" ที่จ.ชัยภูมิชั่วคราว หลังต้น “กังหันลม” หักโค่น เร่งตรวจสอบสาเหตุและกังหันลมเครื่องอื่นของโครงการทันที เบื้องต้นไม่พบผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต รวมทั้งความเสียหายต่อบ้านเรือนประชาชนในพื้นที่
นายคมกฤช ตันตระวาณิชย์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สำนักงาน กกพ.) ในฐานะโฆษกคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 28 ต.ค.65 เวลาประมาณ 17.30 น. กังหันลมผลิตไฟฟ้า จำนวน 1 เครื่อง ในโครงการของบริษัท วะตะแบก วินด์ จำกัด ได้เกิดเหตุต้นกังหันลม หักล้มลง บริเวณพื้นดินซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับเพาะปลูกมันสำปะหลัง ในบริเวณพื้นที่บ้านหนองผักบุ้ง หมู่ที่ 11 ตำบลห้วยยายจิ๋ว อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งได้รับรายงานว่า ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต รวมทั้งความเสียหายต่อบ้านเรือนที่อยู่อาศัยของประชาชนในพื้นที่ จากกรณีเหตุการณ์ดังกล่าว ตลอดจนไม่ส่งผลกระทบต่อการจ่ายกระแสไฟฟ้าในภาพรวมหรือพื้นที่ใกล้เคียงยังคงจ่ายกระแสไฟฟ้าได้ตามปกติ
“ภายหลังรับทราบเหตุการณ์ดังกล่าว ทางสำนักงาน กกพ. ได้ตรวจสอบข้อมูลกับทางบริษัทฯ พร้อมทั้งได้ส่งเจ้าหน้าที่สำนักงาน กกพ. ประจำเขต 6 (นครราชสีมา) เข้าพื้นที่โดยทันที ในวันที่ 29 ตุลาคม 2565 เพื่อตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบว่ามีต้นกังหันลมที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้า หมายเลขที่ W-30 จำนวน 1 เครื่องได้มีการหักล้มลง พบชิ้นส่วนใบพัด, ชุดควบคุมแกนหมุนของใบพัด, ห้องเครื่องกังหันลมและเสากังหันความยาวประมาณสองในสามของความยาวเสากังหันทั้งต้นหักเสียหายอยู่บริเวณพื้นดิน ซึ่งเป็นพื้นที่สำหรับเพาะปลูกมันสำปะหลัง เหลือเพียงฐานและเสากังหันลมเพียงประมาณหนึ่งในสามของความยาวเสากังหันทั้งต้น และขณะเกิดเหตุไม่มีรายงานว่ามีฝนหรือลมพายุพัดกรรโชกแรง” นายคมกฤช กล่าว
โดยในเบื้องต้น ทางบริษัทฯ ได้ปฏิบัติตามเงื่อนไขท้ายประกอบการอนุญาตการประกอบกิจการผลิตไฟฟ้า โดยได้มีรายงานการเกิดอุบัติเหตุและสถานการณ์ความเสียหายที่เกิดขึ้นมายังสำนักงาน กกพ. แล้วภายใน 72 ชั่วโมงนับจากเวลาเกิดอุบัติเหตุ และทางสำนักงาน กกพ. ได้สั่งการให้บริษัทฯ หยุดเดินเครื่องผลิตไฟฟ้ากังหันลมทั้งหมดเป็นการชั่วคราวไว้ก่อน เพื่อตรวจสอบสาเหตุที่เกิดขึ้น รวมถึงตรวจสอบกังหันลมเครื่องอื่นๆ ของโครงการโดยทันที และแจ้งกำชับให้บริษัทฯ เร่งดำเนินมาตรการด้านความปลอดภัยโดยปิดกั้นพื้นที่โดยรอบต้นกังหันลม W-30 รัศมีประมาณ 100 เมตร และมีให้มีการลงทะเบียนควบคุมการเข้าออกของประชาชนซึ่งเข้าพื้นที่เพื่อไปทำเกษตรกรรม และให้บริษัทฯ แจ้งเป็นหนังสือให้กับหน่วยราชการท้องถิ่นและผู้นำชุมชนในพื้นที่ให้ทราบถึงการเกิดอุบัติเหตุดังกล่าว
สำหรับการผลิตไฟฟ้าด้วยกังหันลมของโครงการที่เกิดเหตุดังกล่าว มีจำนวนทั้งสิ้น 30 เครื่อง ขนาดกำลังการผลิตรวม 60 เมกะวัตต์ โดยมีบริษัท วะตะแบก วินด์ จำกัด เป็นผู้ได้รับใบอนุญาตผลิตไฟฟ้า สถานประกอบกิจการอยู่ที่ ตำบลวะตะแบก อำเภอเทพสถิต จังหวัดชัยภูมิ ซึ่งมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ในรูปแบบ Non-Firm และได้จำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ (COD) เมื่อวันที่ 24 ธ.ค.59
อย่างไรก็ตาม หากมีความคืบหน้าเกี่ยวกับสาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ สำนักงาน กกพ. จะเร่งดำเนินการรายงานให้ทราบเป็นระยะๆ ต่อไป