KJL ลุยขยายกำลังการผลิตนวัตกรรมไฟฟ้าแห่งอนาคต รองรับเศรษฐกิจ “ดิจิทัล-EV-โซลาร์รูฟ”
KJL เปิดแผนขับเคลื่อนธุรกิจ เดินหน้าขยายกำลังการผลิตนวัตกรรมไฟฟ้าแห่งอนาคต เพื่อรองรับเศรษฐกิจยุคดิจิทัล และ EV รวมถึงระบบโซลาร์รูฟ”
นายเกษมสันต์ สุจิวโรดม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท กิจเจริญ เอ็นจิเนียริ่ง อีเลคทริค จำกัด (มหาชน) หรือ KJL เปิดเผยว่า บริษัทเดินหน้าขยายกำลังการผลิตนวัตกรรมไฟฟ้าแห่งอนาคต เพื่อรองรับเศรษฐกิจยุคดิจิทัล และ EV รวมถึงระบบโซลาร์รูฟ พร้อมด้วยเทคโนโลยีการผลิตจากประเทศญี่ปุ่น ทำให้มีความถูกต้อง แม่นยำ พร้อมส่งถึงมืออย่างรวดเร็วและตรงต่อเวลา ไม่ว่าจะเป็นสินค้า ตู้ไฟ, รางไฟ, ทั้งตู้ไฟสวิตซ์บอร์ด, รางเดินสายไฟ, ระบบไฟฟ้า และชิ้นส่วนงานโลหะแผ่นแปรรูปสั่งผลิตพิเศษ และรองรับคุณภาพมาตรฐานสากล
โดยบริษัทมีสินค้าและบริการ ประเภทของตู้ไฟ รางไฟ ของ KJL ตู้ไฟสวิตซ์บอร์ดและพลูบอกซ์ และรางเดินสายไฟ ประกอบด้วย รางไวร์เวย์ รางเคเบิ้ลเทรย์ รางเคเบิ้ลแลเดอร์
นอกจากนี้ยังมีตู้ไฟฟ้าสั่งผลิตพิเศษ, ตู้ควบคุมอุปกรณ์, ตู้ Bitcino, ตู้ Schneider และตู้สั่งผลิต โดยทั้งหมดนี้บริษัทให้บริการออกแบบ ผลิตงานไฟฟ้า ตู้สวิตซ์บอร์ดพร้อมวายริ่ง อุปกรณ์ไฟฟ้าแบบ Busbar และการเดินสายไฟ ทั้งระบบควบคุมและระบบไฟฟ้าแบบครบวงจร โดยมีกลุ่มลูกค้า เช่น โรงงานอุตสาหกรรม, อุตสาหกรรมเกษตร, อาคารพาณิชย์, ระบบควบคุมการผลิต, อาคารที่พักอาศัย
“ยิ่งราคาเหล็กขึ้นจะมีโอกาสที่บริษัทยิ่งขายดีมากขึ้น กำลังผลิตเราค่อนข้างเยอะมาก ซัพพลายเออร์ก็จะเข้ามามากขึ้น ซึ่งบริษัทใช้หุ่นยนต์เป็นเครื่องจักรในการทำงานผลิต 24 ชั่วโมง ทำให้สามารถรับออเดอร์ได้อย่างรวดเร็ว และเป็นแบรนด์ที่ติดอยู่ทุกภาค”
ทั้งนี้ บริษัทมองว่าการเข้าตลาดหลักทรัพย์ครั้งนี้ มีเป้าหมายในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตและเพิ่มศักยภาพให้กับธุรกิจ มุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำและผู้เชี่ยวชาญด้านนวัตกรรม เพื่อสร้างแบรนด์ให้เติบโตในระดับโลกอย่างยั่งยืน
อย่างไรก็ตาม นายเกษมสันต์ กล่าวไว้ก่อนหน้านี้ บริษัทเริ่มต้นธุรกิจจากโรงงานห้องแถวเล็กๆ จนเติบโตพัฒนามาเป็นโรงงานอุตสาหกรรมผลิตตู้ไฟ สวิตช์บอร์ด รางเดินสายไฟ และงานโลหะแผ่นแปรรูปสั่งผลิตพิเศษ Sheet Metal Works ด้วยเครื่องจักร และเทคโนโลยีการผลิตที่ทันสมัยจากญี่ปุ่น ภายใต้แบรนด์สินค้า KJL และผลิตตามคำสั่งซื้อ (Made-to-order) ที่ได้รับการรับรองตามมาตรฐานสากล เป็นที่ยอมรับจากลูกค้าในและต่างประเทศ ตลอดจนพันธมิตรระดับโลก
ทั้งนี้ เงินที่ได้จากการระดมทุน จะทำให้บริษัทสามารถขยายธุรกิจ เพิ่มศักยภาพทางการแข่งขัน และสร้างการเติบโตตามแผนที่กำหนดไว้ นับเป็นการตอกย้ำถึงศักยภาพความแข็งแกร่งทางธุรกิจของ KJL ในฐานะผู้นำนวัตกรรมการผลิตและจำหน่ายตู้ไฟ รางไฟ และระบบไฟฟ้าแบบครบวงจรในประเทศไทย โดยคาดว่าจะสามารถนำหุ้นเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) หมวดสินค้าอุตสาหกรรม ภายในปี 2565
โดยบริษัทยังมีแผนจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุน แบ่งใช้เป็น 5 ส่วน ประกอบด้วย 1. ลงทุนก่อสร้างโรงงานและเครื่องจักร เพิ่มกำลังการผลิตเพื่อรองรับคำสั่งซื้อและการให้บริการในอนาคต 2. ใช้ในการลงทุนในระบบผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ ลดการใช้พลังงานไฟฟ้า รวมถึงมลพิษจากการใช้พลังงานที่ก่อให้เกิดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ และลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงานไฟฟ้าในองค์กรเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน
สำหรับทิศทางการดำเนินธุรกิจของบริษัทในปี 2565 ยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง โดยผลประกอบการ 6 เดือนแรก บริษัทมีรายได้จากการขาย 502.89 ล้านบาท และกำไรสุทธิ 65.79 ล้านบาท เติบโตขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้จากการขาย 424.92 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 47.87 ล้านบาท
“KJL มีเป้าหมายในการขับเคลื่อนธุรกิจให้เติบโตอย่างก้าวกระโดดและสามารถคว้าโอกาสใหม่ๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพทางธุรกิจและการเติบโตที่ยั่งยืนในอนาคต โดยมั่นใจว่า KJL จะเป็นหนึ่งในหุ้นที่มีศักยภาพ มีความมั่นคง และสร้างให้ผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุนอย่างต่อเนื่อง” นายเกษมสันต์ กล่าว