IRPC ควักเฉียด 600 ล้าน ขยายผลิต “เม็ดพลาสติกเกรดพิเศษ” 3 โครงการ รองรับดีมานด์ในปท.-ตปท.
IRPC ควัก 589 ลบ. ขยายกำลังการผลิต “เม็ดพลาสติกเกรดพิเศษ” 3 โครงการ คาดแล้วเสร็จปี 67 พร้อมรับตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ
นายกฤษณ์ อิ่มแสง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไออาร์พีซี จำกัด (มหาชน) หรือ IRPC เปิดเผยว่า IRPC ใช้เงินลงทุนกว่า 589 ล้านบาท ขยายกำลังการผลิตเม็ดพลาสติกเกรดพิเศษ 3 โครงการ ได้แก่ 1.โครงการขยายกำลังการผลิตเม็ดพลาสติก พีพี สปันบอนด์ จาก 48,000 เพิ่มเป็น 190,000 ตันต่อปี งบลงทุน 162 ล้านบาท, 2.โครงการผลิตเม็ดพลาสติก พีพี เกรดที่ใช้ผลิตท่อ 80,000 ตันต่อปี งบลงทุน 200 ล้านบาท และ 3.โครงการผลิตเม็ดพลาสติก เอชดีพีอี 100-อาร์ซี เกรดท่ออุตสาหกรรมขนาดใหญ่ งบลงทุน 227 ล้านบาท ทั้ง 3 โครงการคาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 67 พร้อมรับตลาดทั้งในประเทศและต่างประเทศ
ทั้งนี้การดำเนินการขยายกำลังการผลิตเม็ดพลาสติก พีพี สปันบอนด์ ถือเป็นกำลังการผลิตใหญ่ที่สุดในประเทศ และใช้เทคโนโลยีการผลิตแบบไร้สารทาเลต (non-phthalate) เน้นความปลอดภัยต่อผู้บริโภคสูงสุด และกระบวนการผลิตยังลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนจากการใช้พลังงานทางเลือกสวนโซลาร์ลอยน้ำ (floating solar farm) ได้ถึง 2,665 ตันคาร์บอนต่อปี มีกำหนดแล้วเสร็จในไตรมาส 2/67 โดยผลิตภัณฑ์ส่วนหนึ่งนำไปป้อนโรงงานผ้าไม่ถักไม่ทอ บริษัท อินโนโพลีเมด จำกัด ต่อยอดเป็นผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขอนามัยที่มีคุณภาพ อาทิ หน้ากากอนามัย หน้ากาก N95 ชุดกาวน์ ชุด PPE ผ้าอ้อมเด็กและผู้ใหญ่ รวมถึงแผ่นกรองต่างๆ เป็นต้น
สำหรับโครงการผลิตเม็ดพลาสติก พีพีอาร์ เกรดที่ใช้ผลิตท่อน้ำร้อนน้ำเย็นในครัวเรือนและในอุตสาหกรรม ซึ่งมีคุณสมบัติที่ทนต่อแรงขีดข่วนและแรงดันได้ดีมาก และยังทนสารเคมีมากกว่าท่อน้ำประปาทั่วไป รวมทั้งมีความปลอดภัยกว่าผลิตจากเทคโนโลยีการผลิตแบบไร้สารทาเลต (non-phthalate) แห่งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 3/67
ส่วนของโครงการผลิตเม็ดพลาสติก เอชดีพีอี 100-อาร์ซี เกรดท่ออุตสาหกรรมขนาดใหญ่ มีคุณสมบัติทนแรงกระแทก ทนต่อแรงขีดข่วนได้ดีมาก มีอายุการใช้งานยาวนานกว่า 100 ปี จะช่วยให้งานก่อสร้างมีต้นทุนที่ลดลงจากการใช้เครื่องเจาะดินและลากท่อใต้ดินแทนการขุดเปิดหน้าดิน จึงช่วยรักษาทรัพยากรธรรมชาติ สิ่งแวดล้อม และช่วยลดระยะเวลาในการก่อสร้างอีกด้วย คาดว่าจะแล้วเสร็จในไตรมาส 1/67 เช่นเดียวกัน
“การลงทุนในกลุ่มผลิตภัณฑ์ Smart Material ของ IRPC ในครั้งนี้ สอดคล้องกับทิศทางของโลก (Global Megatrends) ในเรื่องของการแพทย์และการดูแลสุขภาพ (Health and Wellness) ซึ่งจะมีบทบาทสำคัญในการดำเนินชีวิตของผู้คนยุควิถีใหม่ สนับสนุนแผนยุทธศาสตร์ประเทศ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมทางการแพทย์ ซึ่งเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมเป้าหมาย (New S-curve) ตามนโยบาย Thailand 4.0 รวมถึงรองรับการขยายตัวของสังคมเมือง และโครงการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานต่างๆ ทั้งในและต่างประเทศ อีกทั้งยังสอดคล้องกับกลยุทธ์ของ IRPC ในการต่อยอดนวัตกรรมที่สร้างคุณค่าให้กับสังคมควบคู่กับสิ่งแวดล้อม ตามวิสัยทัศน์ “สร้างสรรค์นวัตกรรมการใช้วัสดุและพลังงานเพื่อชีวิตที่ลงตัว” นายกฤษณ์ กล่าว