จ่อใช้กฎเหล็ก! DES เตรียมชง ครม. ออก พ.ร.ก.ปราบ “โกงออนไลน์-บัญชีม้า”

นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือ ดีอีเอส เปิดเผยผลการประชุมการแก้ไขปัญหาฉ้อโกงออนไลน์ ที่มีพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม ว่า ปัญหาฉ้อโกงออนไลน์นั้นมีหลายประเภท ทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลอกลงทุนหลอกซื้อของ รวมถึงการพนันออนไลน์ บัญชีม้า ซึ่งทำให้ประชาชนเดือดร้อนกันมาก

สำหรับเรื่องบัญชีม้านั้น รัฐบาลกำลังเดินหน้ากวาดล้าง หากพบพฤติกรรมการโอนเงินที่ผิดปกติ ก็ต้องปิดและบล็อกให้ได้ รวมถึงต้องอายัดบัญชีให้ได้รวดเร็ว ซึ่งที่ประชุมเห็นว่าจะต้องมีการแก้กฎหมาย  โดยจะออกเป็นพระราชกำหนด เพื่อความรวดเร็ว ซึ่งจะสามารถเสนอต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรีได้ภายในสัปดาห์หน้า ทั้งนี้ ตนต้องสรุปรายละเอียดทั้งหมด เพื่อนำเสนอนายกรัฐมนตรีก่อนที่จะนำเข้าที่ประชุม ครม. โดยจะมีการเขียนกฎหมายให้ชัดเจนว่า การรับจ้างเปิดบัญชีม้าทำไม่ได้ ถือว่ามีความผิดและต้องมีบทลงโทษ โดยคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน หรือ ปปง. จะเข้ามาดูในเรื่องนี้ เพื่อตัดกระบวนการบัญชีมาให้ได้ เพราะถ้าไม่มีบัญชีม้าคนร้ายก็จะไม่มีบัญชีที่จะใช้โอนเงิน ประชาชนก็จะไม่ถูกหลอก

ส่วนประเด็นการนำซิมมือถือไปใช้เป็นเครื่องมือในการหลอกลวงประชาชนนั้น นั้น นายชัยวุฒิ ระบุว่า ที่ผ่านมามีการนำซิมไปขายต่อกันเป็นพันๆเบอร์ จนเป็นช่องทางนำไปใช้ในทางที่ไม่ถูกต้อง จึงมีการหารือให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ  กสทช. เข้ามาดูเรื่องนี้ โดยเฉพาะการควบคุมซิมที่ใช้ต่อคน ต้องไม่เกิน 5 ซิม

ขณะที่ นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการ รักษาการเลขาธิการ กสทช. ระบุว่า กสทช.จะเข้มงวดให้มากขึ้น คนที่มีซิมเป็นจำนวนมากจะต้องมาชี้แจงให้ได้ว่ามีไว้เพื่ออะไร โดยทาง กสทช. จะส่งข้อมูลทั้งหมดให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ แต่อย่างไรก็ตามเราจะไปบังคับว่าหนึ่งคนมี 5 ซิมคงไม่ได้ เพราะอาจถือเป็นการริดรอนสิทธิ์ ของประชาชนจึงต้องส่งข้อมูลเหล่านี้ไปให้ทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติตรวจสอบ

ด้านนางสาวรื่นวดี สุวรรณมงคล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ หรือ กลต. ระบุว่า  การหลอกลงทุนออนไลน์ กลต. ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้รับความร่วมมืออย่างดีจาก ดีอีเอส และ กลต. ได้ใช้นโยบายเกี่ยวกับการป้องกันและให้ความรู้ประชาชน ซึ่งความจริงก่อนลงทุน ประชาชนต้องตรวจสอบก่อนว่า สินค้า หรือผลิตภัณฑ์ทางการเงินเป็นในรูปของหลักทรัพย์ปกติ หรือสินทรัพย์ดิจิทัล ซึ่งที่ผ่านมา ก.ล.ต.มีการตรวจสอบ และเมื่อพบว่า มีการหลอกลวงก็รีบแจ้งไปยังดีอีเอสทันที และมีหลักฐานต่างๆก็ให้ดีอีเอสไป สิ่งที่สำคัญที่ ก.ล.ต. คิดเสมอคือต้องป้องปรามและดำเนินการอย่างรวดเร็ว