THREL โชว์งบ Q3 กำไรโต 46% เฉียด 31 ลบ. ดันงวด 9 เดือนแตะ 141 ล้าน

THREL ฟอร์มแกร่ง อวดงบไตรมาส 3/65 กำไรสุทธิโต 46% แตะ 30 ล้านบาท จากงวดเดียวกันของปีก่อน 20.80 ล้านบาท รับกำไรการรับประกันภัยและรายได้ลงทุนสุทธิ ดันงวด 9 เดือนปี 65 อยู่ที่ 141 ล้านบาท ส่งซิกโค้งสุดท้ายปี 65 สดใสต่อเนื่อง จ่อบุ๊กรายได้งานต่างประเทศ


บริษัท ไทยรีประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) หรือ THREL รายงานผลการดำเนินไตรมาส 3/65 และงวด 9 เดือนปี 65 มีกำไรสุทธิดังนี้

นายสุทธิ รจิตรังสรรค์ ผู้อำนวยการใหญ่ THREL เปิดเผยภาพรวมผลประกอบการไตรมาส 3/2565 และงวด 9 เดือนแรก สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2565 ว่าผลงานยังคงแข็งแกร่งต่อเนื่อง โดยไตรมาส 3/2565 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 30.41 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46.23% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน 20.80 ล้านบาท มาจากกำไรจากการรับประกันภัย

ขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปี 2565 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 141 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 64% เทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิ 86 ล้านบาท ซึ่งกำไรจากการรับประกันภัยเติบโตโดดเด่นอยู่ที่ 111 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 154% จากงวดเดียวกันของปีก่อนมีกำไรจากการรับประกันภัย 44 ล้านบาท

อีกทั้งเบี้ยประกันภัยต่อรับอยู่ที่ 2,267 ล้านบาท ลดลง 1% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน 2,292 ล้านบาท และเบี้ยประกันภัยต่อที่ถือเป็นรายได้สุทธิ 2,154 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน 2,014 ล้านบาท ตามการเติบโตของทั้งงานประกันชีวิตแบบร่วมพัฒนา (Non-Conventional) และงานประกันชีวิตแบบดั้งเดิม (Conventional)

นอกจากนี้ งานต่างประเทศยังมีแนวโน้มการเติบโตดี ล่าสุดมีการรับรู้รายได้จากสัญญาใหม่ที่ได้จากประเทศไต้หวันเข้ามาเติมพอร์ตในช่วงไตรมาส 3/2565 ที่ผ่านมา จากก่อนหน้าที่ได้สัญญาใหม่จากประเทศกัมพูชา รวมทั้งบริษัทยังมีรายได้จากการลงทุนสุทธิอยู่ที่ 58 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน 55 ล้านบาท

สำหรับค่าใช้จ่ายในการรับประกันภัยรวมงวด 9 เดือนปี 2565 อยู่ที่ 2,043 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบจากช่วงเดียวกันปีก่อน 1,971 ล้านบาท จากการเพิ่มขึ้นของค่าสินไหมทดแทน (เคลม) ราว 3% อยู่ที่ 1,442 ล้านบาท ตามการเติบโตของเบี้ยประกันภัยต่อรับ ขณะที่ค่าบำเหน็จสุทธิเพิ่มขึ้นอยู่ที่ 486 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน 446 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม บริษัทยังคงมุ่งเน้นประสิทธิภาพการบริหารจัดการค่าใช้จ่าย และคุมเข้มความเสี่ยงในการรับงาน เพื่อควบคุมอัตราค่าสินไหมทดแทนให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ส่งผลให้ Combined Ratio (COR) ลดลงต่อเนื่องเหลือ 94.6% จากระดับ 96.6% ในช่วงเดียวกันปีก่อน ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ ส่วนแนวโน้มช่วงโค้งสุดท้ายของปี 2565 ยังสดใสต่อเนื่อง ตามการเติบโตของงานทั้งในและต่างประเทศ เบื้องต้นคาดได้สัญญาใหม่ พร้อมรับรู้รายได้จากต่างประเทศเข้ามาเติมพอร์ตอีกราว 1-2 ประเทศ

โดยล่าสุดบริษัทได้รับรางวัล Sustainability Excellence ประเภท Rising Star Sustainability Awards สำหรับกลุ่มบริษัทที่มีมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดสูงกว่า 3,000 ล้านบาท จากเวที SET Awards 2022 ซึ่งจัดขึ้นโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมกับวารสารการเงินการธนาคาร เพื่อยกย่องและสร้างแรงจูงให้กับบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในการพัฒนาองค์กรสู่ความยั่งยืนที่ให้ความสำคัญกับการสร้างผลประกอบการที่ดี มีการบริหารจัดการความเสี่ยงตลอดห่วงโซ่อุปทาน พัฒนานวัตกรรมเพื่อเสริมสร้างศักยภาพในการเติบโต ควบคู่กับการดำเนินงานด้วยความรับผิดชอบ ต่อพนักงาน ผู้ถือหุ้น และผู้มีส่วนได้เสียทั้งในด้านสังคมและสิ่งแวดล้อม

บริษัทต้องขอขอบคุณทุกภาคส่วนที่ให้การสนับสนุน ซึ่งบริษัทรู้สึกยินดีและภาคภูมิใจเป็นอย่างยิ่งที่ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติในครั้งนี้ นับเป็นการสะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจตามแนวทางความยั่งยืน ด้วยการมีความรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม ซึ่งบริษัทฯยังคงยึดมั่นดำเนินธุรกิจตามหลักบรรษัทภิบาล สร้างการเติบโตที่ยั่งยืน เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นตลอดไป” นายสุทธิ กล่าว

Back to top button